6องค์กรเกษตรกร-เอกชนยางจับมือแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ
6องค์กรเกษตรกร-เอกชนยางจับมือแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ
วันนี้ (6 พ.ย. 60) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จ. สุราษฎร์ธานี นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สยยท.) เปิดเผยว่า 6 องค์กร ระดับประเทศ ประกอบด้วยสมาคมพ่อค้ายางไทย สมาคมน้ำยางข้นไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตยาง) สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย และสมาคมผลิตไม้ยางพาราไทย (ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ) ได้ร่วมประชุมเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาราคายางที่ตกต่ำทำให้มีปัญหาต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางภายในประเทศเป็นอย่างมาก
"ด้านเกษตรกรขายยางต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ได้รับความเดือดร้อน คนกรีดยางไม่ยอมกรีดและผู้ประกอบการยางก็เกิดปัญหาจากธนาคารที่จำกัดวงเงินกู้ เพราะขาดความเชื่อมั่นราคายางที่ผันผวนจึง ทำให้มีปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียนเช่นกัน นอกจากนั้นในภาคอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง ก็เช่นกัน เพราะราคายางตกต่ำเช่นนี้ ธนาคารก็ย่อมระมัดระวังและจำกัดเงินที่ปล่อยกู้"
จากปัญหานี้ทางการเกษตรกร ผู้ประกอบการยาง และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยาง จึงต้องมาจับมือร่วมกันเพื่อฝ่าฟันวิกฤตที่เกิดขึ้น เพราะจากการประชุมร่วมกันทุกฝ่ายต่างให้ความเห็นใจซึ่งกันและกัน และทุกฝ่ายต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมือกันแก้ปัญหาอุปสรรคให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน จากการร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้ถูกทิศถูกทาง ทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ และไม้ยาง จะต้องผนึกกำลังกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ซึ่งเกษตรกรก็ยอมรับว่าเป็นฝ่ายผลิตยางมา เพื่อให้พ่อค้าคนกลางนำไปแปรรูป เพื่อส่งต่อไปสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยาง ซึ่งทั้ง 4 ฝ่ายจะต้อง วิน-วินและวิน ถึงจะไปด้วยกันได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
ถ้าขาดผู้ใดผู้หนึ่งไม่ได้ เพราะจะต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน และรัฐบาลก็จะต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะยางพาราทำรายได้ให้ประเทศ ขายปีละ ประมาณ 6-7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของสินค้าเกษตร ซึ่งรัฐไม่ควรทอดทิ้งให้ราคาตกลงอย่างนี้ โดยจะต้องให้ความสำคัญทุกฝ่าย ทั้งนี้สถาบันการยางระดับประเทศ จึงได้ขอฝากความหวังให้รัฐบาล คสช. ที่ได้ผ่าน พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย โดยมีนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ในฐานะนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 คงจะหันมาเอาใจใส่ยางทั้งระบบต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำและไม้ยาง ดังนั้น 6 สถาบันยางครบวงจร จึงต้องการให้รัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อความมั่นคงของประเทศสืบไป
วันนี้ (6 พ.ย. 60) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จ. สุราษฎร์ธานี นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สยยท.) เปิดเผยว่า 6 องค์กร ระดับประเทศ ประกอบด้วยสมาคมพ่อค้ายางไทย สมาคมน้ำยางข้นไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตยาง) สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย และสมาคมผลิตไม้ยางพาราไทย (ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ) ได้ร่วมประชุมเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาราคายางที่ตกต่ำทำให้มีปัญหาต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางภายในประเทศเป็นอย่างมาก
"ด้านเกษตรกรขายยางต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ได้รับความเดือดร้อน คนกรีดยางไม่ยอมกรีดและผู้ประกอบการยางก็เกิดปัญหาจากธนาคารที่จำกัดวงเงินกู้ เพราะขาดความเชื่อมั่นราคายางที่ผันผวนจึง ทำให้มีปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียนเช่นกัน นอกจากนั้นในภาคอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง ก็เช่นกัน เพราะราคายางตกต่ำเช่นนี้ ธนาคารก็ย่อมระมัดระวังและจำกัดเงินที่ปล่อยกู้"
จากปัญหานี้ทางการเกษตรกร ผู้ประกอบการยาง และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยาง จึงต้องมาจับมือร่วมกันเพื่อฝ่าฟันวิกฤตที่เกิดขึ้น เพราะจากการประชุมร่วมกันทุกฝ่ายต่างให้ความเห็นใจซึ่งกันและกัน และทุกฝ่ายต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมือกันแก้ปัญหาอุปสรรคให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน จากการร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้ถูกทิศถูกทาง ทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ และไม้ยาง จะต้องผนึกกำลังกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ซึ่งเกษตรกรก็ยอมรับว่าเป็นฝ่ายผลิตยางมา เพื่อให้พ่อค้าคนกลางนำไปแปรรูป เพื่อส่งต่อไปสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยาง ซึ่งทั้ง 4 ฝ่ายจะต้อง วิน-วินและวิน ถึงจะไปด้วยกันได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
ถ้าขาดผู้ใดผู้หนึ่งไม่ได้ เพราะจะต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน และรัฐบาลก็จะต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะยางพาราทำรายได้ให้ประเทศ ขายปีละ ประมาณ 6-7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของสินค้าเกษตร ซึ่งรัฐไม่ควรทอดทิ้งให้ราคาตกลงอย่างนี้ โดยจะต้องให้ความสำคัญทุกฝ่าย ทั้งนี้สถาบันการยางระดับประเทศ จึงได้ขอฝากความหวังให้รัฐบาล คสช. ที่ได้ผ่าน พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย โดยมีนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ในฐานะนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 คงจะหันมาเอาใจใส่ยางทั้งระบบต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำและไม้ยาง ดังนั้น 6 สถาบันยางครบวงจร จึงต้องการให้รัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อความมั่นคงของประเทศสืบไป
