“ออกซ์ฟอร์ด” เตรียมแบนรถใช้เชื้อเพลิง! แก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ

สมาร์ท เอนเนอร์จี :: “ออกซ์ฟอร์ด” เตรียมแบนรถใช้เชื้อเพลิง! แก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ โดย Powerbank | ‘เมืองออกซ์ฟอร์ด’ ในประเทศอังกฤษ นอกจากจะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีประวัติศาสตร์เนิ่นนานย้อนไปถึงศตวรรษที่ 11 แล้ว ปัจจุบันยังคงรักษามาตรฐานและดึงดูดนักศึกษาจากทั่วโลกให้หลั่งไหลมาเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ นั่นเป็นมุมมองเกี่ยวกับเมืองออกซ์ฟอร์ดที่โดดเด่นชัดเจนที่สุด แต่ในวันนี้ ‘ออกซ์ฟอร์ด’ กำลังก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยการมุ่งหน้าสู่อนาคตกับการเป็นเมืองต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ตั้งเป้าไว้ว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อากาศของเมืองนี้จะปราศจากไอเสียที่มาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงรถยนต์ และจะเป็นเมืองแรกในโลกที่ไม่มีการสร้างก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ

เริ่มจากการกำหนดเขตห้ามรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง หรือ ก๊าซธรรมชาติ มาวิ่งบนท้องถนนย่านใจกลางเมือง และอนุญาตเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เท่านั้น โดยนับจากปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เป็นต้นไป ถนน 6 สาย ย่านใจกลางเมืองออกซ์ฟอร์ดจะห้ามรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก รถแท็กซี่ รวมทั้งรถบัสที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเข้ามาวิ่ง จากนั้นในปี ค.ศ. 2035 จะขยายขอบเขตการห้ามวิ่งให้ครอบคลุมรถทุกประเภทที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและครอบคลุมถนนทุกสายในเขตใจกลางเมือง




เป็นที่คาดหมายว่า การกำหนดข้อห้ามดังกล่าวจะทำให้จำนวนการใช้รถส่วนตัวบนท้องถนนลดน้อยลง โดยผู้คนจะหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าสาธารณะมากขึ้น ทำให้การปล่อยควันและไอเสียจากท่อรถยนต์ลดน้อยลง โดยเฉพาะไนโตรเจนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษจากท่อไอเสีย และเป็นสาเหตุของปัญหาระบบหายใจและการระคายเคืองดวงตา จะลดลงราว ๆ 3 ใน 4 ของระดับปัจจุบัน ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ออกซ์ฟอร์ดเป็นหนึ่งใน 11 เมืองใหญ่ของประเทศอังกฤษ ที่มีฝุ่นพิษแขวนลอยในอากาศ ที่เรียกว่า PM10s และ PM2.5s เกินระดับที่ปลอดภัย จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนมาใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองออกซ์ฟอร์ดต้องประสบกับปัญหาสุขภาพจากมลภาวะทางอากาศ

เป็นที่คาดหมายว่า การเปลี่ยนแปลงเพื่อคุณภาพอากาศและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเมืองออกซ์ฟอร์ดนี้ จะทำให้สภาเมือง ธุรกิจในท้องถิ่น รวมทั้งผู้ให้บริการรถขนส่ง จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 7 ล้านปอนด์ หรือกว่า 308 ล้านบาท เพื่อการปรับเปลี่ยนยวดยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนั้น คาดว่ายังต้องใช้งบอีก 7 ล้านปอนด์ สำหรับการติดตั้งระบบตรวจตราว่า มีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ออกมาหรือไม่ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถจดจำเลขทะเบียนรถ เป็นต้น ผู้ฝ่าฝืนนำรถใช้เชื้อเพลิงแบบเก่ามาวิ่งใจกลางเมืองออกซ์ฟอร์ดหลังมีการประกาศห้าม จะถูกปรับในอัตราสูง ความสำเร็จของโครงการนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากรัฐบาลส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ประชาชน และองค์กรธุรกิจในพื้นที่ด้วย

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,308 วันที่ 26-28 ต.ค. 2560