BAY ไตรมาส 3 กำไรเพิ่ม 3.17%

แบงก์กรุงศรีอยุธยา กำไรสุทธิไตรมาส 3กว่า 6,014 ล้านบาท เติบโต 3.17% จากงวดปีก่อน หนุน 9 เดือนกำไรเพิ่ม 7.89% จากงวดปีก่อน กวาดรายได้ค่าธรรมเนียม บริการสุทธิและกำไรจากเงินลงทุน ส่วนสัดส่วนหนี้เสียลดเหลือ 2.16% พร้อมคงเป้าสินเชื่อทั้งปีอยู่ที่ 6-8%

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 6,014.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.82 บาท เพิ่มขึ้น 3.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,829.26 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.79 บาท ส่งผลให้งวด 9 เดือน ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 17,530.23 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.38 บาท เพิ่มขึ้น 7.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16,248.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.21 บาท

ธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2560 เพิ่มขึ้น 2.4% จากไตรมาส 2 ปี 2560 และ 3.2% จากไตรมาส 3 ปี 2559 เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.89% คงที่จากไตรมาสก่อน ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 10.6% จากไตรมาสก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและกำไรจากเงินลงทุน

นอกจากนี้ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 3 จำนวน 6,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 738 ล้านบาท หรือ 13.6% จากไตรมาสก่อนหน้าสอดคล้องกับความรอบคอบระมัดระวังในการบริหารเงินให้สินเชื่อ ส่วนอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้นอยูที่ 2.16% เทียบกับ 2.24% ในไตรมาสก่อนหน้าและมีอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับแข็งแกร่ง 149.4% และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.28% เทียบกับ 15.96% ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2560

สำหับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี 2560 คาดว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจตมฤดูกาลสำหรับสินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ส่งผลให้ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี โดยอยู่ที่ขอบล่างของเป้าหมายที่6-8%