ขาใหญ่เรียลเอสเตตตั้งกลุ่ม ยกระดับงานออกแบบก่อสร้าง

กลุ่มผู้นำอสังหาฯไทย “พฤกษา-สัมมากร-แอล.พี.เอ็น.-อนันดา-เอสซี” และกลุ่มผู้ใช้งานโปรแกรมการออกแบบ 3 มิติ ตั้งกลุ่ม Open Source BIM วางมาตรฐานข้อมูลการออกแบบก่อสร้าง ลดปัญหาโครงการล่าช้า ความผิดพลาดการก่อสร้าง และงบประมาณ

การที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างและการพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์ของประเทศไทย อาทิ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หน่วยงานภาครัฐ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ปรึกษาโครงการ ผู้ออกแบบ สถาปนิกและวิศวกร ฯลฯ ใช้งานโปรแกรมการออกแบบ 3 มิติ หรือ BIM (Building Information Modeling) ซึ่งจะสร้างแบบจำลองเสมือนจริงใน Computer ทำให้ผู้ทำงานเกี่ยวข้องสามารถเห็นส่วนประกอบทุกส่วนตรงกัน อย่างไรก็ตาม ต่างประสบปัญหาในเรื่องการขาดมาตรฐานการทำงานบนคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้การออกแบบโครงการต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องประสานงานระหว่างแต่ละหน่วยงานหรือระหว่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างตลอดจนบริษัทออกแบบเกิดความติดขัดและมีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพผลงาน เวลา และงบประมาณโครงการในวงกว้าง

ดังนั้น กลุ่มผู้ใช้งาน BIM ในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้นำในวงการอสังหาฯไทย อาทิ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่ม Open Source BIM เพื่อเป็นการสร้างโอกาส
ในการพบปะและรวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือ ทั้งนำเสนอความคิดเห็นตลอดจนแนวทางปฏิบัติงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อเป็นการสร้างความตื่นตัวให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้าง นำมาซึ่งแนวทางและมาตรฐานการทำงานบนระบบ BIM ที่เหมาะสมเพื่อเป็นมาตรฐานกลางที่ทั้งประเทศจะสามารถใช้เป็นแนวทางในการทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแบ่งปันความรู้ข้อมูล ทั้งในระดับบุคคล หน่วยงานต่างๆ ในการต่อยอดองค์ความรู้ ทักษะ เพื่อการผลิตและพัฒนาบุคลากรทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดแรงงานทั้งปัจจุบันและอนาคต เป็นการช่วยยกระดับการพัฒนาคุณภาพวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สิ่งที่กลุ่ม Open Source BIM จะทำก็คือสร้างมาตรฐานชื่อแฟ้มข้อมูลการออก แบบโครงการทั้งงานก่อสร้าง และงานระบบให้มีชื่อเดียวกัน ซึ่ง
ข้อดีก็คือ 1. ไม่มีข้อผิดพลาดในการก่อสร้าง 2. เมื่อส่งต่อให้บริษัทรับเหมา ถอดแบบงานก่อสร้างหรือ Build of Quantity ประเมินงบประมาณการก่อสร้างออกมาได้ใกล้เคียงกับที่ผู้ประกอบการตั้งไว้ และ 3. ลดปัญหาความล่าช้าและลดความผิดพลาด

นอกจากนี้ทางกลุ่ม Open Source BIM ยังคิดต่อยอดการยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับสำนักโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) จากเดิมที่ต้องส่งพิมพ์เขียว 5 ชุด ต่อไปก็อาจจะส่งแฟ้มข้อมูลการออกแบบก่อสร้างในรูปแบบงานโปรแกรมการออกแบบ 3 มิติ หรือ BIM ช่วยสำนักโยธาประหยัดพื้นที่การจัดเก็บเอกสาร

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560