ปตท.สานต่อรอยพระบาท ร.9 น้อมนำหลักคิด‘เศรษฐกิจพอเพียง’
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทปิโตรเลียมของไทย ล่าสุดเพิ่งได้รับคะแนนสูงสุดเป็น Industry Leader ในกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) อีกทั้งยังถูกเลือกให้ติดอยู่ในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Index (DJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ถือเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศที่หลายองค์กรยึดเป็นต้นแบบ “ความสำเร็จ”
“เทวินทร์ วงศ์วานิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทัพหน้ากลุ่มปตท. พูดถึงความสำเร็จของปตท. ส่วนหนึ่งเกิดจากที่เป็นองค์กรแรกๆ ที่ได้น้อมนำหลักแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะได้น้อมนำปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ที่คำนึงถึงความพอประมาณ นำมาพัฒนาในทุกๆด้าน โดยกลุ่ม ปตท.พัฒนาพลังงานของประเทศบนหลักความ “มีเหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน” เพื่อให้สังคมไทยพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
[caption id="attachment_220567" align="aligncenter" width="318"]
เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)[/caption]
รวมถึงการน้อมนำหลักแนวคิดมาใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะเรื่อง “ธรรมาภิบาล” ที่พระองค์ทรงเป็นต้นแบบ ทรงพระราชดำรัสไว้เมื่อครั้งขึ้นครองราชย์สมบัติ 70 ปีที่แล้ว “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” เป็นหลักการที่ชัดเจนและเห็นเป็นรูปธรรมมาก ดังนั้นกลุ่ม ปตท.มีภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ก้าวตามรอยพระยุคลบาท ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่ปตท.จะต้องสานต่อ ต่อไป
“พระองค์เปรียบได้ดั่งพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย ทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลด้านพลังงานทดแทน ซึ่งเกิดขึ้นหลายโครงการ อาทิ แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ก๊าซชีวภาพชีวมวล พลังงานนํ้า พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ จนเป็นรูปธรรม ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานใช้ได้เอง ลดการพึ่งพานำเข้าจากต่างประเทศ” ซีอีโอปตท. กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9
ซีอีโอปตท. กล่าวว่า นอกจากยึดหลักน้อมนำแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในการทำงานแล้ว ปตท.ยังมีอีกหลายโครงการที่ยึดมั่นที่จะผลักดันให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย โดยเดินคู่ขนานไปกับการทำงาน อาทิ “โครงการพลิกผืนป่า คืนผืนดิน ด้วยพระบารมี” ซึ่งเมื่อปี 2537 ปตท.เข้าร่วมโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 โดยตั้งปณิธานปลูกและฟื้นฟูผืนป่าทั่วประเทศ 1 ล้านไร่
โครงการ “รักษ์นํ้า รักษ์ป่า รักษ์คุ้งบางกะเจ้า” โดย ปตท.ในฐานะบริษัทพลังงานของชาติ พร้อมด้วยบริษัทในกลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธาน ดำเนินตามแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเมื่อปี 2525-2530 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประทับเฮลิคอปเตอร์ นั่งผ่านคุ้งบางกะเจ้าหลายครั้ง และทรงมีพระราชดำริ สรุปความว่า “สมควรสงวนพื้นที่แห่งนี้ไว้สำหรับเป็นพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากลมมรสุมจากอ่าวไทยจะพัดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้ามาไล่อากาศเสียในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 9 เดือนต่อปี”
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการฝนเทียม ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ, โครงการสวนสมุนไพร, โครงการหญ้าแฝก ซึ่งประยุกต์ใช้หญ้าแฝกร่วมกับวิธีกลและพืชอื่น เพื่อป้องกันภัยดินถล่มชุมชนบ้านหน้าถํ้า จ.สุราษฎร์ธานี, โครงการรักษ์ป่า สร้างคน 84 ตำบล วิถีพอเพียง เป็นต้น
ปตท.ในยุค “เทวินทร์” สานต่อกรอบการลงทุนในอนาคต โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่ให้สังคมและชุมชนมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องภายใต้ทิศทางยุทธศาสตร์ชาติสู่ไทยแลนด์ 4.0 น้อมนำหลักแนวคิดของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักปฏิบัติใช้ สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาแบบยั่งยืน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
“เทวินทร์ วงศ์วานิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทัพหน้ากลุ่มปตท. พูดถึงความสำเร็จของปตท. ส่วนหนึ่งเกิดจากที่เป็นองค์กรแรกๆ ที่ได้น้อมนำหลักแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะได้น้อมนำปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ที่คำนึงถึงความพอประมาณ นำมาพัฒนาในทุกๆด้าน โดยกลุ่ม ปตท.พัฒนาพลังงานของประเทศบนหลักความ “มีเหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน” เพื่อให้สังคมไทยพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
[caption id="attachment_220567" align="aligncenter" width="318"]
รวมถึงการน้อมนำหลักแนวคิดมาใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะเรื่อง “ธรรมาภิบาล” ที่พระองค์ทรงเป็นต้นแบบ ทรงพระราชดำรัสไว้เมื่อครั้งขึ้นครองราชย์สมบัติ 70 ปีที่แล้ว “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” เป็นหลักการที่ชัดเจนและเห็นเป็นรูปธรรมมาก ดังนั้นกลุ่ม ปตท.มีภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ก้าวตามรอยพระยุคลบาท ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่ปตท.จะต้องสานต่อ ต่อไป
“พระองค์เปรียบได้ดั่งพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย ทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลด้านพลังงานทดแทน ซึ่งเกิดขึ้นหลายโครงการ อาทิ แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ก๊าซชีวภาพชีวมวล พลังงานนํ้า พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ จนเป็นรูปธรรม ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานใช้ได้เอง ลดการพึ่งพานำเข้าจากต่างประเทศ” ซีอีโอปตท. กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9
ซีอีโอปตท. กล่าวว่า นอกจากยึดหลักน้อมนำแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในการทำงานแล้ว ปตท.ยังมีอีกหลายโครงการที่ยึดมั่นที่จะผลักดันให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย โดยเดินคู่ขนานไปกับการทำงาน อาทิ “โครงการพลิกผืนป่า คืนผืนดิน ด้วยพระบารมี” ซึ่งเมื่อปี 2537 ปตท.เข้าร่วมโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 โดยตั้งปณิธานปลูกและฟื้นฟูผืนป่าทั่วประเทศ 1 ล้านไร่
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการฝนเทียม ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ, โครงการสวนสมุนไพร, โครงการหญ้าแฝก ซึ่งประยุกต์ใช้หญ้าแฝกร่วมกับวิธีกลและพืชอื่น เพื่อป้องกันภัยดินถล่มชุมชนบ้านหน้าถํ้า จ.สุราษฎร์ธานี, โครงการรักษ์ป่า สร้างคน 84 ตำบล วิถีพอเพียง เป็นต้น
ปตท.ในยุค “เทวินทร์” สานต่อกรอบการลงทุนในอนาคต โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่ให้สังคมและชุมชนมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องภายใต้ทิศทางยุทธศาสตร์ชาติสู่ไทยแลนด์ 4.0 น้อมนำหลักแนวคิดของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักปฏิบัติใช้ สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาแบบยั่งยืน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
