ซีฟูดกระบี่ขาดตลาด นำเข้าจากระนองเพิ่ม

กระบี่มึน! มรสุมทำซีฟูดขาดตลาด ไม่พอป้อนโรงแรม-เกสต์เฮาส์กว่า 2 หมื่นห้อง ต้องนำเข้าจากระนองเสริม ชี้เหตุยังไม่มีสะพานปลามาตรฐานของราชการ

นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้วัตถุดิบสัตว์นํ้าในกระบี่มีปริมาณน้อยลงเนื่องจากเรือประมงพาณิชย์ไม่สามารถออกจับสัตว์นํ้าได้ตามปกติ เพราะเจอภาวะมรสุมอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ต้องนำเข้าสัตว์นํ้าจากจังหวัดระนอง เนื่องจากความต้องการซีฟูดของโรงแรมและเกสต์เฮาส์ในจังหวัดกระบี่ซึ่งเพิ่มจำนวนเป็น กว่า 2 หมื่นห้อง แม้กระบี่จะมีปลาเลี้ยงในกระชังจำนวนกว่า 1 หมื่นกระชังก็ยังไม่เพียงพอ ส่วนชาวประมงพื้นบ้านในกระบี่ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 1,000 ลำก็รองรับการบริโภคของคนท้องถิ่นได้พอดีอยู่แล้ว

“อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรสัตว์นํ้าที่ฟื้นตัว ทำให้โอกาสที่ชาวประมงกระบี่จะจับสัตว์นํ้าได้มากขึ้น มาจากการประกาศ
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องห้าม เรืออวนลาก อวนรุน และเรือคราดหอย จับสัตว์นํ้าในน่านนํ้ากระบี่ถึงเขตรอยต่อจังหวัดตรัง ทำให้เรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงชายฝั่งมีสภาพคล่องในการทำประมงใน เขตน่านนํ้าของกระบี่และจะมีสัตว์นํ้าเพิ่มขึ้นเพื่อส่งขายให้โรงแรมและภัตตาคารหรือร้านอาหารทั่วไปให้มากขึ้น”

นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาเรื่องการทำประมงของจังหวัดกระบี่มีเรื่องใหญ่อยู่ 1 เรื่องคือ กระบี่ยังไม่มีท่าเรือ หรือสะพานปลาขนาดมาตรฐานของทางราชการเกิดขึ้นเลย ปัจจุบันได้อาศัยท่าเรือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ที่บ้านคลองจิหลาดให้เรือประมงจำนวน 80 ลำทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เข้าจอดเพื่อส่งสินค้าสัตว์นํ้าที่จับได้สู่ลูกค้า โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรืออบจ.กระบี่ มอบหมายให้สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่บริหารจัดการในด้านการรักษาความสะอาด ไฟฟ้าแสงสว่าง การใช้นํ้าประปา โดยมีค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 1 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560