“ไก่อู”แจงยิบยัน “บัตรคนจน” ไม่ได้อุ้มเจ้าสัว

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีของกระแสข่าวลือที่มีออกมาต่อเนื่องเกี่ยวกับ “บัตรคนจน” ว่าเป็นความพยายามของผู้ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตที่ต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แต่มักจะช่วยไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงคน เป็นการช่วยแบบเหมา จึงขออธิบายชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ดังนี้

สำหรับประเด็นแรกที่มีการระบุว่า มีการนำบัตรไปแลกเป็นเงินสดแล้วนำมาหักค่าหัวคิวแทนที่จะนำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น กรณีนี้เชื่อว่า อาจมีบางส่วนที่เป็นเช่นนั้น ขอทำความเข้าใจว่ารัฐบาลประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ครม. ซึ่งเป็นผู้ดูแลด้านนโยบาย อีกส่วนคือข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ลูกจ้าง ที่อยู่ในระบบ ขณะที่รัฐบาลเปลี่ยนไปแต่ผู้ปฏิบัติยังเป็นคนเดิม ซึ่งอยู่มาหลากหลายรัฐบาลแล้ว ดังนั้น อาจเป็นไปได้ที่อาจจะมีบางคนที่ทำเช่นนั้น หากใครมีข้อมูลข่าวสารลักษณะนี้ขอให้แจ้งเข้ามารัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดอย่างเต็มที่ เพื่อให้โครงการนี้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้จริง



ประการที่ 2 คือ กรณีที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า ให้เงิน 300 บาทต่อหัว หรือ 200 ต่อหัว นั้น เงินเหล่านี้จะไหลไปเข้ากระเป๋าของเจ้าสัว ผู้เป็นเจ้าของกิจการที่นำสินค้ามาขายในร้านธงฟ้า โดยยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากร้านธงฟ้าในปัจจุบันหรือร้านที่ผูกพันตามกฎกติกากับกระทรวงพาณิชย์ที่ให้นำบัตรไปรูดได้นั้น มีผู้ประกอบการขณะนี้แล้ว 20 กว่าราย มีรายการสินค้าประมาณ 40 กว่ารายการ ประเภทสินค้าอีกประมาณ 300 กว่ารายการ และกำลังจะมีผู้ประกอบการอีกหลายส่วนที่จะเข้ามาเป็นตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกร ภาคเกษตรกร และกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งรัฐบาลเปิดรับทั้งหมด ดังนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวจึงไม่เป็นเรื่องจริง

ประการที่ 3 คือ ประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น จะไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินไม่ได้นั้น หากดูจากฐานรายได้น้อยกว่า 100,000 บาทต่อปี หรือ น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปี ซึ่งคนเหล่านี้หากจะกู้เงินโดยปกติก็จะยากมากอยู่แล้ว ดังนั้น การไม่ได้รับการอนุญาตให้กู้เงินจึงไม่ได้เกิดจากโครงการนี้แต่เป็นกฎกติกาที่ทางธนาคารแต่ละธนาคารต้องการความเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อ