ฟอร์ดแนะ7อุปกรณ์ต้องมีติดรถสำหรับการผจญภัยแบบออฟโรด

10 ต.ค. 2560 | 06:24 น.
หากสุดสัปดาห์นี้เหล่าสาวกออฟโรดทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพมีแผนออกทริปออฟโรดเพื่อพักผ่อนคลายเครียดกัน แต่จะทำอย่างไร หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างทริปอันแสนสนุก จากความตั้งใจที่จะออกทริป เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ อาจกลายเปลี่ยนเป็นความเครียดได้ในทันที

 

ค่ายฟอร์ด ประเทศไทย จึงขอแนะนำ7 อุปกรณ์จำเป็นที่ผู้ขับขี่ควรมีติดรถสำหรับการผจญภัยแบบออฟโรด เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง

1.ชุดกู้ภัย (Recovery Kit)นับว่าเป็นอุปกรณ์จำเป็นอย่างมาก หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องกู้รถของคุณเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้ซึ่งชุดกู้ภัยควรถูกเก็บไว้ในที่ที่ผู้ขับขี่สามารถหยิบได้ง่าย  เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดระบบการทำงานของประตูหรือหน้าต่างอาจเสียหาย  ดังนั้นการมีชุดกู้ภัยไว้ใกล้ๆตัวจะช่วยให้เราสามารถแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที

2. ชุดอุปกรณ์ซ่อมล้อ(Wheel Repair Equipment) ล้อไม่ใช่เป็นเพียงหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของรถ แต่ยังเป็นส่วนที่มีโอกาสเสียอยู่บ่อยครั้งเมื่อออกทริปออฟโรด ด้วยพื้นที่ที่ห่างไกลและยากลำบากการรอความช่วยเหลือจึงอาจเป็นยากและเสียเวลามาก ดังนั้น การมีชุดอุปกรณ์ซ่อมล้อและล้อรถสำรองติดรถไว้ พร้อมความรู้เบื้องต้นในการซ่อมและเปลี่ยนล้อ จะช่วยคุณได้เป็นอย่างมากเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ล้อคุณไปต่อไม่ได้

3. แผ่นรองล้อกันลื่น(Wheel Slip Pad)เมื่อคุณต้องขับรถขึ้นไปบนทางลาดชันที่เต็มไปด้วยโคลนและลื่นมาก การติดแผ่นรองล้อกันลื่นไว้ก่อนเริ่มทริปจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับคุณได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีตัวช่วยมากมายที่ปกป้องล้อรถของคุณให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นขณะขับขี่แบบออฟโรด ตัวอย่างเช่น ฟอร์ดเรนเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) และระบบล็อคเฟืองท้ายแบบElectronic Locking Rear Differential (LRD)ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เอาชนะทุกความท้าทายในสภาพแวดล้อมแบบสมบุกสมบัน

Feature_Ford 8 Essential Tools for Off Road Driving

4. ไฟส่องสว่างแบบLED (Work Light) การแก้ปัญหาต่างๆจำเป็นต้องใช้เวลาและยิ่งไปกว่านั้นการแก้ไขสถานการณ์ในที่มืดย่อมต้องใช้เวลานานมากขึ้นไปอีกซึ่งนอกเหนือจากไฟติดหัว (headlamp) แล้ว การมีไฟส่องสว่างแบบLED นั้น ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างและทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในที่มืดช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่หรือกำลังซ่อมแซมอยู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยฟอร์ดเรนเจอร์ยังได้รับการออกแบบพิเศษด้วยไฟส่องสว่างกระบะหลัง  เพื่อความสะดวกในการเก็บหรือหาสิ่งของในเวลากลางคืนช่วยให้คุณมีแสงส่องสว่างตลอดทั้งคัน

5.รอกสลิงไฟฟ้า(Electrical Winch)ในเส้นทางออฟโรดที่ท้าทายอาจเต็มไปด้วยหลุมบ่อ และยิ่งการขับในฤดูฝน ปัญหารถติดบ่อโคลนตกหล่ม นับว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอๆ ระหว่างเดินทาง ซึ่งการนำรอกสลิงไฟฟ้าติดไปด้วยบนรถ จะสามารถช่วยลากรถคุณขึ้นจากการติดหล่มได้ ทั้งนี้รอกสลิงไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์  จึงควรใช้งานในขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ทติดอยู่และหากจะใช้ขณะดับเครื่องยนต์ก็ไม่ควรให้นานเพราะจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดไปด้วย

สำหรับผู้ขับขี่ฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วต่ำแรงฉุดลากสูง (4x4 Low)ได้เพียงแค่หมุนสวิทซ์ขณะรถจอดหยุดนิ่ง ซึ่งการควบคุมให้รถของคุณเคลื่อนที่ด้วยเกียร์ต่ำนั้น จะช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนได้ดียิ่งขึ้นบนพื้นผิวเฉพาะที่ขรุขระ

6. เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ขนาดพกพา (Jump Starter) กรณีที่รถของคุณสตาร์ทไม่ติดเนื่องจากแบตเตอรี่หมดเสื่อมหรืออ่อนในป่าเขาและเส้นทางที่ยากลำบาก  เราอาจพึ่งพารถคันอื่นไม่ได้  การมีเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ขนาดพกพาติดรถไว้จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางต่อได้อย่างไม่หยุดชะงัก

7. ถุงมือนิรภัย(Safety Gloves) อุปกรณ์อเนกประสงค์ที่เป็นประโยชน์สำหรับการซ่อมแซมในทุกสถานการณ์ เช่น เมื่อต้องซ่อมรถในที่ที่มีแสงน้อยหรือเปียกน้ำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคุณได้ถุงมือนิรภัยนั้นจะปกป้องมือของคุณให้ปลอดภัยจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงมุมแหลม มุมคม จากตัวรถที่คุณต้องเจอระหว่างการซ่อมแซมได้

e-book