ฐานโซไซตี : “สรยุทธ” หนี-ไม่หนี?

16 ก.ย. 2560 | 12:34 น.
1496396405417-1 (1)

ฐานโซไซตี

“สรยุทธ” หนี-ไม่หนี?

405662

อยู่ในคุกได้ 15 วัน สำหรับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง และกรรมการผู้จัดการ บจก.ไร่ส้ม ก่อนที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จะรับ “คำฎีกา” เพื่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาใน “คดีไร่ส้ม” และศาลฎีกาก็ได้อนุญาตให้ประกันตัวออกจากเรือนจำ ด้วยหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท แต่มีข้อแม้ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และต้องมารายงานตัวทุก 3 เดือน

405682

“คดีไร่ส้ม” ทั้งศาลอาญาชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต่างเห็นพ้องสั่งลงโทษจำคุก สรยุทธ 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่การต่อสู้ในชั้น “ศาลฎีกา” นั้น คาดว่าจะใช้เวลาเต็มที่ประมาณ 1 ปี ศาลถึงจะนัดฟังคำพิพากษา แต่สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปก็คือว่า สรยุทธ จะฎีกาสู้คดีในประเด็นใดบ้าง ในเรื่องข้อ “กฎหมาย” นั้นคงจบไปแล้ว หากจะสู้ก็ต้องต่อสู้ในเรื่อง “ข้อเท็จจริง” หรือจะร้องขอให้ “รอการลงโทษ” หรือไม่

บอกตรงๆ สำหรับคดีของ สรยุทธ ผ่านมา 2 ศาลแล้วต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อมาถึง “ศาลฎีกา” ก็ไม่รู้ว่าจะ “รอด”หรือไม่ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วอะไรสู้ได้ก็ต้องสู้เต็มที่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับศาล

ปล่อยตัวชั่วคราวสรยุทธ

จะว่าไปแล้วโทษจำคุก 13 ปี 4 เดือน ถือว่ามากทีเดียว หลายคนคงเกิดคำถามว่า สรยุทธ จะ “หนี” ไม่มาฟังคำพิพากษา เหมือน “นักการเมือง” หลายๆ คนที่หนีโทษ-หนีศาลอยู่ในขณะนี้หรือไม่ หากให้เดาใจ สรยุทธ คิดว่าคงไม่หนี เชื่อว่า จะอยู่ฟังคำตัดสิน เพราะหาก “หนี” ก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต หากอยู่ฟังคำตัดสิน โอกาสที่ศาลฎีกาจะพลิกคำตัดสินของ 2 ศาลที่ผ่านมา หรือโอกาสจะลดโทษลงมาก็มีทางเป็นไปได้ หรือหากต้อง “ติดคุก” โอกาสที่จะได้ “ลดหย่อนโทษ” ลงมาในวาระต่างๆ ที่จะทำให้ไม่ต้องรับโทษตามกำหนด ก็มีทางเป็นไปได้เช่นกัน...เว้นเสียแต่ว่า “เดาใจสรยุทธผิด” แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1-7

 

“อยากฝากถึงท่านรัฐมนตรีกระทรวงเมติ และนักธุรกิจญี่ปุ่นทุกท่านว่า สำหรับไทยที่มีต่อญี่ปุ่นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศไม่ใช่แค่ด้านเศรษฐกิจ แต่ผมมองว่ามันคือ ‘หุ้นส่วนชีวิต’ เพราะไทยรับรู้มาตลอดว่าในอดีตที่ฟ้าสดใส ญี่ปุ่นก็อยู่กับไทยตลอด และในยามที่เมฆหมอกปกคลุมประเทศไทย เราก็พบว่าญี่ปุ่นยังอยู่กับไทยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นคือ‘พันธมิตร’ เป็นความสัมพันธ์ 2 ประเทศที่ ‘เหนือกาลเวลา’ ทั้งหมดนี้ผมพูดสด ไม่ได้ร่างไว้ เพราะมาจากความรู้สึกจริงๆ” นั่นคือคำกล่าวตอนหนึ่งของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในงานสัมมนา ในโอกาสครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์การทูตไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งมีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าร่วมงาน 570 ราย ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา

20170912113647

เช่นเดียวกับ ฮิโรชิเกะเซโกะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ที่นำทัพนักธุรกิจญี่ปุ่นมาเยือนไทย ก็ได้พูดถึงความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศว่า “หากเอกชนญี่ปุ่นสามารถเชื่อมโยงกับเอกชนไทยได้อย่างมีศักยภาพ เป้าหมายของญี่ปุ่นในลำดับต่อไปคือการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางซัพพลายเชนของภูมิภาคอาเซียน ด้วยระบบฐานข้อมูล ยืนยันว่าระบบฐานข้อมูลคือเครื่องมือสำคัญ ยกตัวอย่างง่ายๆ หากโรงงานมีอายุหลายปี มีเครื่องจักรที่ใช้งานหลายปี จะทำอย่างไรในการยืดอายุโรงงานนั้นๆ ให้ประกอบการได้นานขึ้น เครื่องมือที่จะยืดอายุโรงงาน คือ ฐานข้อมูลที่สามารถตรวจสอบประเมิน ทำให้การซ่อมบำรุงมีความต่อเนื่องและตรงจุด ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 การอุตสาหกรรม 4.0 ก็เป็นเป้าหมายสำคัญของแผนพัฒนาฉบับนี้ ดังนั้นญี่ปุ่นขอร่วมสนับสนุนแนวทางนี้ เพื่อให้ญี่ปุ่นและไทยพัฒนาและเชื่อมโยงระหว่างกัน”

ในการยกทัพมาเยือนไทยครั้งนี้ของบรรดาเหล่านักธุรกิจญี่ปุ่น ยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุนญี่ปุ่นและนักลงทุนไทย เพื่อลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็หวังให้อานิสงส์ของการมาเยือนของนักธุรกิจญี่ปุ่น บังเกิดผลต่อภาวะเศรษฐกิจของไทยทั้งในระยะอันใกล้นี้และระยะยาวต่อไป

คอลัมน์ : ฐานโซไซตี / หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศราฐกิจ / ฉบับ 3279 ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ย.2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1-5