"สรรพสามิต”ย้ำ ภาษีใหม่เพิ่ม 2% เชื่อไม่กระทบประชาชน

"สรรพสามิต”ย้ำ ภาษีใหม่เพิ่ม 2% ต่อปี ไม่กระทบธุรกิจ-ประชาชน ยกเว้น สุรา ยาสูบ หวังดูแลสุขภาพ

การปรับโครงสร้างภาษีใหม่ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตพ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ในวันนี้ 16กันยายน 2560

นายสมชาย  พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ เป็นการจัดเก็บภาษีตามปริมาณและมูลค่ารวมกัน ซึ่งจะใช้ราคาขายปลีกเป็นราคาอ้างอิง

สำหรับการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีสรรพสามิตตามกฎกระทรวงกำหนด พิกัด อัตราภาษีสรรพสามิตพ.ศ.2560  จะทำให้กรมฯมีรายได้จากกาารจัดเก็บภาษีเพิ่ม ประมาณ2 % ต่อปี คิดเป็นวงเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าและผู้นำเข้าต้องปรับตัวในแง่ของการบริหารต้นทุน จากอัตราภาษีที่ปรับเพิ่ม2% เพราะต้องแข่งขันในตลาดได้ ดังนั้นเชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกมาก ยกเว้น กลุ่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ เป็นต้น

ทั้งนี้ โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ การจัดเก็บภาษีสุรา ปรับลดภาษีตามมูลค่าและเพิ่มอัตราภาษีตามปริมาณ(แรงแอลกอฮอล์)เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยคำนึงถึงสุขภาพมากขึ้น อัตราภาษีใหม่ เช่น สุราสัดส่วนจะอยู่ที่ 45:55(ตามมูลค่า:ดีกรี)และอนาคตอัตราจะขึ้นอยู่กับดีกรี  ส่วนบุหรี่จัดเก็บภาษีแบบระบบผสมทั้งมูลค่าและปริมาณ ซึ่งภาพรวมราคาจะอยู่ที่ 24 บาทต่อซอง(1ซอง 20มวน)โดยจัดเก็บตามปริมาณในอัตราเดียว คือ 1.20บาทต่อมวน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการบริโภคบุหรี่ราคาถูก และจัดเก็บภาษีตามมูลค่าเป็น 2 อัตราคือ ราคาขายปลีกที่ไม่เกิน 60 บาทต่อซองเสียภาษี อัตรา 20% ของมูลค่า และราคาเกิน 60 บาทต้องเสียภาษีอัตรา 40%ของมูลค่าเป็นเวลาสองปีจากนั้นให้เวลาอุตสาหกรรมบุหรี่ปรับตัว จึงจัดเก็บภาษีตามมูลค่าเท่ากันคือ ราคาขายปลีกเกิน 60 บาทต้องเสียภาษี 40% ของมูลค่า ทั้งนี้ บุหรี่ราคาถูก อัตราจะเพิ่มประมาณ 4-15 บาท บุหรี่ราคาแพงเพิ่ม  2-14 บาทโดยได้ขยายฐานภาษีครอบคลุมถึงยาเส้นพื้นเมืองด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังพิกัดอัตราภาษีสรรรพสามิตครั้งนี้จะมีผลต่อสินค้าหลักๆ ประกอบด้วย ภาษีสุรา แบ่งเป็น เบียร์ ราคาจะเพิ่มขึ้น 0.50-2.66 บาท เบียร์ราคาแพงจะเสียภาษีน้อยลงประมาณ 0.99-2.06 บาท

สุราขาว ภาษีจะเพิ่ม 0.84-3.49(ขนาดและดีกรี) ไวน์ในประเทศภาษีปรับลดลง25บาท ส่วนไวน์นำเข้าเพิ่ม 110บาทขึ้นไปและบ้างปรับลด และสุรากลั่นในประเทศอัตราเพิ่ม 8-30บาท ขณะสุรานำเข้าอัตราลดลง3-26บาท

นอกจากนี้ในหมวดสินค้าน้ำพืชผักผลไม้ อัตราจะเพิ่มประมาณ 0.06-0.54 บาท ขณะชาเขียวเพิ่มประมาณ 1.13-2.0 บาท กาแฟอัตราเพิ่มประมาณ 1.35 บาท น้ำอัดลม Zero,Max ลดลลง 0.25-0.36 บาทประมาณ2-3% น้ำอัดลมธรรมดาเพิ่มขึ้น 0.13-0.50 บาท  เครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มประมาณ 0.32-0.90 บาท ยกเว้นขนาด 150 ซีซี.ลดลง 0.11บาท เป็นต้น

อธิบกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการสามารถสอบถามรายละเอียดได้ผ่านสายด่วน 1713 ทั้งนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศลงพื้นที่ดูสถานการณ์ราคาสินค้า แต่อัตราภาษีใหม่มีภาระภาษีเพิ่มไม่มาก จึงไม่น่าจะกระทบราคาขายปลีกและเชื่อว่าร้านค้า ผู้ประกอบการจะกำหนดราคาขายปลีกที่สามารถแข่งขันได้