เกาหลีเหนือหนุนทองคำพุ่งขึ้นทะลุ $1,300

13 ก.ย. 2560 | 23:00 น.
MP18-3296-3A ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมาและสามารถปรับตัวขึ้นทะลุ High เดิมของปีนี้และขึ้นมายืน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีหลากหลายปัจจัยที่เข้ามาหนุนราคาทองคำ อาทิ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงต่อไปในปีนี้ การพุ่งขึ้นของสกุลเงินยูโรจากกระแสการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)จะปรับรายละเอียดในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนตุลาคม รวมถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐ

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยที่ดูจะเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้และเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเห็นจะเป็น “สถานการณ์ความตึงเครียดจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ”

35752913_s-12 ความตึงเครียดรุนแรงขึ้นหลังเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)ครั้งแรกในวันที่ 4 กรกฎาคมและครั้งที่ 2 ในวันที่ 28 กรกฎาคมซึ่งมีพิสัยยิงกว้างกว่าเดิมจนอาจใช้ยิงโจมตีถึงเมืองสำคัญของสหรัฐได้ ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาเตือนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" หากยังดึงดันจะกระทำการที่ถือเป็นภัยคุกคามสหรัฐ ขณะที่เกาหลีเหนือออกมาตอบโต้ด้วยการเปิดเผยแผนจะยิงขีปนาวุธลงสู่เกาะกวม

แต่ความพยายามของเกาหลีเหนือยังไม่สิ้นสุดหลังจากในช่วงเช้าวันที่ 29 สิงหาคมได้ยิงขีปนาวุธลอยข้ามประเทศญี่ปุ่นก่อนไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด ขณะที่ล่าสุดในวันที่ 3 กันยายน สถานการณ์ความตึงเครียดมาถึงจุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อเกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6 แต่ที่สร้างความวิตกให้แก่ทั่วโลกเนื่องจากสามารถวัดอานุภาพทำลายล้างได้สูงถึง 120 กิโลตันซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 สถานการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือยังมีทีท่าว่าจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC)จะจัดประชุมกันในวันที่ 11 กันยายน เพื่อลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ โดยมีสหรัฐเป็นหัวหอกซึ่งอาจมีการห้ามไม่ให้มีการจัดหา ขาย หรือเคลื่อนย้ายน้ำมันดิบ คอนเดทเสท ปิโตรเลียมสำเร็จรูปและก๊าซธรรมชาติเหลวทุกประเภทไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมให้กับเกาหลีเหนือ และเตรียมห้ามไม่ให้จ้างงานและจ่ายค่าจ้างให้กับแรงงานเกาหลีเหนือหากจ่ายแล้วกลายเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาล อีกทั้งอาจมีการอายัดทรัพย์สินครอบคลุมเงินทุนทั้งหมด รวมถึงสินทรัพย์ทางการเงินและทางเศรษฐกิจอื่นๆนอกดินแดนเกาหลีเหนือของนายคิม จอง อึน อีกด้วย ขณะที่เกาหลีเหนือออกมาเตือนว่าสหรัฐจะถูกเอาคืนอย่างสาสมสำหรับความพยายามในการเรียกร้องให้ลงมติคว่ำบาตรรอบใหม่

เชื่อว่าประเด็นของเกาหลีเหนือหากยังยืดเยื้อและไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่ตรงจุดอาจสร้างแรงหนุนให้แก่ราคาทองคำ ซึ่งการปรับตัวขึ้นถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะใช้จุดดังกล่าวเป็นจุดขายทำกำไร และแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังในการเข้าซื้อที่ราคาขึ้นมารับข่าวมาพอสมควรแล้ว เพราะหากสถานการณ์ไม่มีทีท่าว่าจะลุกลามเป็นสงครามหรือคลี่คลายลงในที่สุดก็อาจก่อให้เกิดแรงขายทำกำไรให้ราคาปรับตัวลงได้ ที่สำคัญสถานการณ์ในเกาหลีเหนือไม่ใช่ประเด็นเดียวที่ส่งผลต่อราคาทองคำ แต่หากยังมีทั้งเรื่องของการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด การเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์และความคืบหน้าทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งสามารถสร้างความผันผวนให้แก่ราคาทองคำได้ทั้งในเชิงบวกและทางลบเช่นกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
e-book