กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญา ซึ่งก่อเหตุบุกโจมตีด่านความมั่นคงหลายแห่งในเวลาไล่เลี่ยกันที่รัฐยะไข่ของเมียนมา ทำให้กองทัพเข้าปราบปรามและทำให้ชาวมุสลิมเกือบ 300,000 คน ต้องอพยพหนีไปบังกลาเทศ
ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีผลในทันที
วันที่ 11 ก.ย. 60 -- กองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกัน ประกาศหยุดยิงชั่วคราวทางทวิตเตอร์บัญชี @ARSA_Official และยอมให้จัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามาในพื้นที่สู้รบได้ โดยแถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาพร้อมเปิดทางให้องค์กรบรรเทาทุกข์ทั้งหมดรื้อฟื้นการจัดสรรความช่วยเหลือด้านมุนษยธรรมให้กับผู้ประสบความเดือดร้อนได้ทั้งหมด ในระหว่างช่วงหยุดยิงที่จะมีผลไปจนถึงวันที่ 9 ต.ค.
นอกจากนี้ ยังขอให้ทางการเมียนมาตอบรับข้อเสนอหยุดยิง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย หลังจากมีผู้อพยพและไร้ที่อยู่จำนวนมากที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือภายหลังจากการปะทะกันดุเดือดกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ รัฐบาลเมียนมา ระบุสั้น ๆ ว่า ไม่มีนโยบายเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและจะเดินหน้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ จนกว่าพลเรือนจะมีความปลอดภัยและสามารถกลับเข้าสู่บ้านเรือนของตนเองได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ เหตุปะทะในรัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ส่งผลให้ความรุนแรงลุกลามบานปลาย พลเรือนถูกสังหารและเผาทำลายบ้านเรือนหลายพันหลัง มีชาวโรฮิงญาเกือบ 300,000 คน อพยพหนีความรุนแรงมายังบังกลาเทศ โดยทางการบังกลาเทศวางแผนสร้างค่ายพักชั่วคราวที่สามารถรองรับได้ 250,000 คน แต่ขอให้เมียนมาจัดเขตปลอดภัยสำหรับชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ รวมถึงเรียกร้องให้เมียนมาจัดการปัญหาในรัฐยะไข่ด้วยความระมัดระวังและอดกลั้น โดยขอให้คำนึงถึงสวัสดิภาพของพลเรือนไว้ก่อน