บสย.ควง18แบงก์ขึ้นเหนือผลักดันยอดค้ำประกันสินเชื่อ SMEs 8.1 หมื่นล้าน

08 ก.ย. 2560 | 09:19 น.
บสย.ลงพื้นที่เชียงใหม่ ผนึก 18 ธนาคารพันธมมิตร ผลักดันยอดค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน  81,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ สร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 371,000 ล้านบาท

นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ตลอดเดือนกันยายนนี้  ได้วางแผนการทำตลาดเชิงรุกกับ 18 ธนาคารพันธมิตร  เพื่อร่วมกันผลักดันยอดค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน  81,000 ล้านบาท ช่วผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ตามนโยบายรัฐบาล   โดยล่าสุดได้มอบหมายให้ ฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และฝ่ายกิจการสาขา  ลงพื้นที่ 3 จังหวัดใหญ่ของประเทศ คือ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างการรับรู้ ขับเคลื่อน และกระตุ้น 18 ธนาคารพันธมิตร ที่ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)  เร่งปล่อยสินเชื่อ  และการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ ให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อมากที่สุด

แผนการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ ประกอบด้วย การสัมมนาธนาคารพันธมิตร  ล่าสุดลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จัดสัมมนาโครงการผลักดันการค้ำประกันสินเชื่อSMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ พบปะ 18 ธนาคารพันธมิตร  กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลไกการค้ำประกันของบสย. มุ่งเน้นเนื้อหาประโยชน์ของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขสำคัญที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายและประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ในการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา

S__23617552 สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจสูง ด้วยกำลังการผลิต การต่อยอดขยายกิจการ ระดับเงินทุนหมุนเวียน  รองรับการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวและโรงแรม  ภาคบริการ ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง ภาคการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และภาคการเกษตร  มั่นใจว่าโครงการค้ำประกันสินเชื่อ  SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ จะเป็นกลไกสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ และภาพรวมของประเทศมากขึ้น  โดยบสย.ได้เตรียมลงพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ในวันที่ 22 กันยายน 2560

โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs  ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ วงเงิน 81,000 ล้านบาท ผ่านความเห็นชอบตามมติครม.เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 11 สิงหาคม  ที่ผ่านมา โดยมี 18 ธนาคารพันธมิตรร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU)  สาระสำคัญของโครงการคือ เป็นความร่วมมือจาก 3 ภาคส่วนคือ รัฐบาล บสย.และธนาคาร ร่วมกันผลักดันมาตรการความช่วย เหลือผู้ประกอบการ SMEs  กล่าวคือ ทั้งรัฐบาลและธนาคารพันธมิตร ร่วมกันรับภาระจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ SMEs  4 ปีแรก (รวม7%)   โดยตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไปผู้ประกอบการ SMEs เป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมในอัตรา 1.75% ต่อปีของวงเงินค้ำประกัน โดย บสย.ได้เพิ่มสัดส่วนการจ่ายค่าประกันชดเชยให้ธนาคารจาก 23.75% เป็น 30%

อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ ที่รัฐบาลและธนาคารพันธมิตรจ่ายแทนSMEs ปีที่1รัฐบาล1.75%  ปีที่  รัฐบาล1.25%สถาบันการเงิน 0.50% ปีที่ 3รัฐบาล0.75%สถาบันการเงิน 1.00%ปีที่ 4รัฐบาล 0.25%สถาบันการเงิน1.50% รวมรัฐบาล 4.00% สถาบันการเงิน 3.00%

“มาตรการนี้จะส่งผลในเชิงเศรษฐกิจตลอดครึ่งปีหลัง สามารถช่วยให้ SMEs ได้รับสินเชื่อรวมกว่า 27,000 ราย เป็นลูกค้ารายใหม่  เพื่อทำธุรกิจได้เพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินประมาณ 136,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มรวมประมาณ 108,000 คนและสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 371,000 ล้านบาท“ นายนิธิศกล่าว

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01 สำหรับธนาคารพันธมิตรที่ร่วมโครงการ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารทหารไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขยาดย่อมแห่งประเทศไทย  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารยูโอบี ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน

ทั้งนี้ วงเงิน 81,000 ล้านบาทหมดภายในเดือนธันวาคม 2560 โครงการนี้สามารถยื่นคำขอได้ถึงเดือนมิถุนายน 2561 ถ้าจบเร็วก็สามารถช่วยSMEsได้เร็ว โครงการ PGS ระยะที่ 6 ปรับปรุงใหม่ เริ่มมาตั้งแต่11 สิงหาคมที่ ผ่านมา วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา สามารถค่ำประกันไปแล้ว1,000 ราย วงเงินประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท   ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว