บิ๊กอสังหาฯโหมลุยลงทุนโครงการใหม่ช่วง 4 เดือนสุดท้าย อนันดาฯ ผุดคอนโดฯ 3 ทำเลติดรถไฟฟ้า มูลค่ากว่า 8,300 ล้านบาท ด้านศุภาลัยมั่นใจเปิด 17 โครงการ มูลค่า 1.55 หมื่นล้านบาท ประเดิมทำเลใหม่ใจกลางฝั่งธนบุรี
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าว่า ความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในระดับกลางถึงไฮเอนด์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ บนทำเลติดสถานีรถไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ไอดีโอ โมบิ มีที่พระราม 4, รางนํ้า และสุขุมวิท 40 มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,300 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 60%
“จากการวิจัยตลาดคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าย่านพระราม 4-รางนํ้า-สุขุมวิท 40 พบว่าจำนวนซัพพลายในบริเวณนี้มีไม่มาก จึงมีดีมานด์ที่รอสินค้าพร้อมตอบโจทย์ความต้องการในทุกด้านอยู่อีกมาก”
ทุกโครงการมีระบบหมุนเวียนอากาศในห้องด้วยพลังงานสะอาด นวัตกรรม Solar Cell Panel ที่รับผิดชอบ
ต่อสิ่งแวดล้อม และ Smart Solar Fresh Air System การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ทำ
ระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้อง ส่งผลให้อุณหภูมิภายในห้องลดลง โดยนายชานนท์ กล่าวว่า
“การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วันนี้ นอกจากทำเลที่ตั้งและราคาขายแล้ว อนันดายังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการ
พัฒนาสินค้าโดยการมองหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับลูกค้า ซึ่งโครงการใหม่ทั้ง 3 ทำเลนี้ เปิดมิติใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียมที่นำนวัตกรรม Solar Fresh air system มาใช้ในทุกยูนิต เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจ
ในสุขภาพ”
ขณะที่นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.) บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 17 โครงการ มูลค่า 15,530 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วประเทศในทุกทำเลศักยภาพมุ่งขยายตลาดในพื้นที่ใหม่ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายครบทุกความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม
ในกรุงเทพฯเตรียมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลใหม่ ใจกลางกรุงฝั่งธนบุรี 3 โครงการ 3 แบรนด์ 3 สไตล์ 3 ทำเลที่คาดว่าโดนใจลูกค้าอย่างแน่นอน ส่วนต่างจังหวัด เน้นจังหวัดสำคัญของทุกภาค ซึ่งปัจจุบันได้เข้าไปพัฒนาโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานีฯและนครราชสีมา ขณะเดียวกันยังคงมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศ เช่น การร่วมลงทุนกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศออสเตรเลียจำนวน 6 โครง การมีทั้งโครงการบ้านพักริมทะเล และโครงการจัดสรรที่ดิน ซึ่งทุกโครงการหลังจากเปิดขายได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,294 วันที่ 7 - 9 กันยายน พ.ศ. 2560