BTS กำไรดี-แจกปันผลงาม
นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ บีทีเอส กำไรปีนี้มากกว่า 2,000 ล้านบาท 3 ธุรกิจโตดี รถไฟสายสีชมพู-เหลืองเริ่มก่อสร้างปี 2560
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้จัดการประชุม นักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560 ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์คงคำแนะนำให้ “ซื้อ” เช่น บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)ฯให้ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท คาดโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่ากำไรสุทธิปี 2561 จะอยู่ที่ 2,360 ล้านบาท และปี 2562 จะอยู่ที่ 2,450 ล้านบาท กำไรจากธุรกิจหลัก จะโต 10.6% ในช่วง 3 ปีนี้ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจสื่อมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
[caption id="attachment_15592" align="aligncenter" width="503"]
BTS[/caption]
ขณะเดียวกันงบดุลของ BTS ยังแข็งแกร่งโดยมีสัดส่วนหนี้ต่อทุน (ดี/อี) สุทธิอยู่แค่ 0.1 เท่า และยังมีเงินสดและเงินลงทุนสภาพคล่องสูงอีก 3.89 หมื่นล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ฯ คงคำแนะนำ ซื้อ BTS คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาสถัดๆไป จะมีพัฒนาการดีขึ้น หลังไตรมาส 1 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2560 มีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท ลดลงจำนวน 144 ล้านบาทคิดเป็นกว่า 26% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิ 548 ล้านบาท เพราะไม่ได้บันทึกรายการขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ
“ความน่าสนใจของ BTS คือ การฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ดี เมื่อการลงทุนโครงการต่างๆเห็นผล เป็นหนึ่งในผู้บริหารเดินรถรายใหญ่ที่สุดของประเทศทั้งสายสีเขียว เหลือง และชมพู รวมทั้งจ่ายเงินปันผลได้สูง ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 9.38 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 10% ในช่วงปี 2560-2562” บล.ดีบีเอสฯระบุ
นักวิเคราะห์บล.กสิกรไทยฯ ให้ราคาพื้นฐาน 9.80 บาท บริษัทยังคงเป้าหมายการเปิดดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายตอนเหนือปี 2561, ตอนใต้ปี 2562 และรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองปี 2563-2564 จึงยังคงประมาณการทั้งปีไว้ที่กำไรสุทธิ 2,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23% จากกำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 700-750 ล้านบาท/ไตรมาส
บริษัทให้เหตุผลที่กำไรไตรมาส 1 ลดลง 26% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้นและไตรมาสเดียวกันปีก่อนมีการรับรู้กำไรจากการเปลี่ยนสถานะเงินลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานดีขึ้นทุกหน่วยธุรกิจ ส่งผลให้เติบโต 100.2% เป็น 3,110.3 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้จัดการประชุม นักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560 ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์คงคำแนะนำให้ “ซื้อ” เช่น บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)ฯให้ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท คาดโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่ากำไรสุทธิปี 2561 จะอยู่ที่ 2,360 ล้านบาท และปี 2562 จะอยู่ที่ 2,450 ล้านบาท กำไรจากธุรกิจหลัก จะโต 10.6% ในช่วง 3 ปีนี้ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจสื่อมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
[caption id="attachment_15592" align="aligncenter" width="503"]
ขณะเดียวกันงบดุลของ BTS ยังแข็งแกร่งโดยมีสัดส่วนหนี้ต่อทุน (ดี/อี) สุทธิอยู่แค่ 0.1 เท่า และยังมีเงินสดและเงินลงทุนสภาพคล่องสูงอีก 3.89 หมื่นล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ฯ คงคำแนะนำ ซื้อ BTS คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาสถัดๆไป จะมีพัฒนาการดีขึ้น หลังไตรมาส 1 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2560 มีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท ลดลงจำนวน 144 ล้านบาทคิดเป็นกว่า 26% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิ 548 ล้านบาท เพราะไม่ได้บันทึกรายการขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ
“ความน่าสนใจของ BTS คือ การฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ดี เมื่อการลงทุนโครงการต่างๆเห็นผล เป็นหนึ่งในผู้บริหารเดินรถรายใหญ่ที่สุดของประเทศทั้งสายสีเขียว เหลือง และชมพู รวมทั้งจ่ายเงินปันผลได้สูง ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 9.38 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 10% ในช่วงปี 2560-2562” บล.ดีบีเอสฯระบุ
นักวิเคราะห์บล.กสิกรไทยฯ ให้ราคาพื้นฐาน 9.80 บาท บริษัทยังคงเป้าหมายการเปิดดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายตอนเหนือปี 2561, ตอนใต้ปี 2562 และรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองปี 2563-2564 จึงยังคงประมาณการทั้งปีไว้ที่กำไรสุทธิ 2,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23% จากกำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 700-750 ล้านบาท/ไตรมาส
บริษัทให้เหตุผลที่กำไรไตรมาส 1 ลดลง 26% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้นและไตรมาสเดียวกันปีก่อนมีการรับรู้กำไรจากการเปลี่ยนสถานะเงินลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานดีขึ้นทุกหน่วยธุรกิจ ส่งผลให้เติบโต 100.2% เป็น 3,110.3 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560