ซัมซุงชูดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งย้ำความสำเร็จ กาแลคซี่ เอส 8 ในไทย
ซัมซุงชูกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งต่อยอดความสำเร็จอย่างล้นหลามเป็นที่น่าจับตามองของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+” ในประเทศไทย ด้วยการเดินหน้ารุกทำการตลาดและสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคยุคใหม่ผ่านสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียช่องทางหลักอย่าง Facebook และ YouTube พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ "ชีวิตไร้กรอบ" ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำกับกิจกรรม “S8 Hunt” เกมล่าคว้าเอส 8 เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สิทธิ์ลุ้นรับสมาร์ทโฟนสุดล้ำก่อนใคร เผยผลตอบรับดีเกินคาดด้วยยอดเสิร์ช (Search Volume) พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเปิดตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยผลักดันความสำเร็จด้านการตลาดให้โตแบบก้าวกระโดดในไทย
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของไลฟสไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เผยสถิติคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 ชั่วโมงต่อวัน จากปีที่ผ่านมาที่ 5.7 ชั่วโมงต่อวัน และพบว่าสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม 3 อันดับแรกของประเทศไทยได้แก่ YouTube โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 97.3% รองลงมาคือ Facebook และ Line มีผู้ใช้งานคิดเป็น 94.8% และ 94.6% ตามลำดับ ในส่วนของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ต พบว่ามีสถิติผู้ใช้งานผ่านมือถือมากถึง 90% จากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในปัจจุบัน”
“ในฐานะที่ซัมซุงเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เราจึงมุ่งเน้นการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในการสร้างการรับรู้และสื่อสารกับผู้บริโภคของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นขุมพลังขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับ ‘ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+’ ที่ได้เปิดตัวในตลาดประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยซัมซุงได้นำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาใช้ในทุกเฟสของการสื่อสารทางการตลาดของเอส 8 ในไทย และได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจอย่างเกินคาดเมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดตัวมือถือรุ่นก่อนๆ”
ในเฟสก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซัมซุงได้จัดงาน “S8 Unpacked Night 2017” ที่เน้นการสื่อสารสู่บล็อกเกอร์ในสายไอที ไลฟ์สไตล์ รวมถึงสื่อมวลชนที่สนใจสัมผัสประสบการณ์พิเศษผ่านการถ่ายทอดสดงานเปิดตัว ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และ เอส 8+ แบบเรียลไทม์ ส่งตรงจากนิวยอร์คโดยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียหลักอย่าง Facebook Live และ YouTube Live นอกจากนี้ ซัมซุงยังใช้การตลาดจากการบอกเล่าของผู้ทรงอิทธิพลในวงการ หรือ Influencer Marketing ผ่านช่องทาง Instagram โดยการนำดาราและพิธีกรชั้นนำของประเทศไทยอย่าง ชมพู่ อารยา, กาละแมร์ พัชรศรี และจอห์น วิญญู โพสต์ภาพตัวเองที่ถ่ายคู่กับ กาแลคซี่ เอส 8 พร้อมใส่แฮชแท็ก #GalaxyS8TH #ชีวิตไร้กรอบ เพื่อเป็นการเบิกทางสร้างกระแสรับรู้ก่อนวันเปิดตัวจริงในไทย
ทั้งนี้ ในวันเปิดตัวซัมซุงได้ปล่อย Teaser Video ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียแถวหน้าของไทยอย่าง Facebook และ Instagram เพื่อสร้างกระแสก่อนเปิดตัวจริง ซึ่งมีจำนวนคนดูมากถึง 1.8 ล้านคน และสามารถเข้าถึง 3.8 ล้านคน ก่อนวันเปิดตัวเพียงสองวัน เช่นเดียวกันซัมซุงยังได้ทำการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย Facebook Live โดยผู้ร่วมงานก็สามารถแชร์ประสบการณ์แบบเรียลไทม์ได้ พร้อมชมคอนเสิร์ตจากแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของซัมซุง “ตูน บอดี้สแลม” แบบใกล้ชิด โดย Facebook Live มียอดผู้เข้าชมมากถึง 1 ล้านคนภายในวันเดียวกัน และสามารถเข้าถึงผู้ชมกว่า 5.7 ล้านคน อีกทั้งยังมีการแชร์ต่อไปยัง Facebook ของสื่อมวลชนต่างๆ มากกว่า 20 ช่องทาง ทั้งนี้ “ตูน บอดี้สแลม” ยังเป็นตัวแทนของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบ “ชีวิตไร้กรอบ” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของผลิตภัณฑ์และแฮชแท็ก #ชีวิตไร้กรอบ ซึ่งคำนิยามใหม่นี้ได้แพร่กระจายออกไปในวงกว้างตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนและความโดดเด่นของแบรนด์ใปในทิศทางเดียวกัน
หลังงานเปิดตัว นอกจากซัมซุงจะปล่อยคลิปโฆษณาสั้น นำโดยแบรนด์แอมบาสเดอร์ “ตูน บอดี้สแลม” ลงบน Facebook และ YouTube เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงผู้ชมได้ถึงกว่า 7.4 ล้านวิว ซัมซุงยังปล่อยแคมเปญสุดตื่นเต้น “S8 Hunt - เกมล่า คว้าเอส 8” เพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม (Consumer Engagement) ผ่านช่องทางออนไลน์หลักอย่าง Facebook ซึ่งผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกและลุ้นระทึกไปกับประสบการณ์ตามล่าหากาแลคซี่ เอส 8 ที่ซ่อนอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร จากภาพปริศนาและคำใบ้ผ่านการไลฟ์ทางเฟสบุ๊คเพจ (Facebook Live) Samsung Mobile Thailand โดยกิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมถึง 4 พันคนในหนึ่งวินาทีแรก และกว่า 4 แสนคนในเวลา 4 ชั่วโมงผ่านช่องทาง Facebook Live Streaming
ความสำเร็จอย่างล้นหลามของการเปิดตัวซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+ ในประเทศไทยที่เน้นการใช้สื่อดิจิทัลเป็นหลัก นอกจากจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวไปจนถึงช่วงหลังเปิดตัว โดยมียอดค้นหา (Search Volume) พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับตอนก่อนเปิดตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการระดมเน้นใช้สื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียหลักอย่าง Facebook, Youtube และ Instagram ช่วยผลักดันการตลาดให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
“ผลลัพธ์ที่เราได้รับจากการซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาใช้ในการทำการตลาด โดยเราจะยังคงนำกลยุทธ์นี้มาปรับใช้กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเราในอนาคตอย่างแน่นอน” นายวิชัย กล่าวสรุป
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของไลฟสไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เผยสถิติคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 ชั่วโมงต่อวัน จากปีที่ผ่านมาที่ 5.7 ชั่วโมงต่อวัน และพบว่าสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม 3 อันดับแรกของประเทศไทยได้แก่ YouTube โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 97.3% รองลงมาคือ Facebook และ Line มีผู้ใช้งานคิดเป็น 94.8% และ 94.6% ตามลำดับ ในส่วนของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ต พบว่ามีสถิติผู้ใช้งานผ่านมือถือมากถึง 90% จากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในปัจจุบัน”
“ในฐานะที่ซัมซุงเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เราจึงมุ่งเน้นการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในการสร้างการรับรู้และสื่อสารกับผู้บริโภคของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นขุมพลังขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับ ‘ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+’ ที่ได้เปิดตัวในตลาดประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยซัมซุงได้นำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาใช้ในทุกเฟสของการสื่อสารทางการตลาดของเอส 8 ในไทย และได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจอย่างเกินคาดเมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดตัวมือถือรุ่นก่อนๆ”
ทั้งนี้ ในวันเปิดตัวซัมซุงได้ปล่อย Teaser Video ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียแถวหน้าของไทยอย่าง Facebook และ Instagram เพื่อสร้างกระแสก่อนเปิดตัวจริง ซึ่งมีจำนวนคนดูมากถึง 1.8 ล้านคน และสามารถเข้าถึง 3.8 ล้านคน ก่อนวันเปิดตัวเพียงสองวัน เช่นเดียวกันซัมซุงยังได้ทำการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย Facebook Live โดยผู้ร่วมงานก็สามารถแชร์ประสบการณ์แบบเรียลไทม์ได้ พร้อมชมคอนเสิร์ตจากแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของซัมซุง “ตูน บอดี้สแลม” แบบใกล้ชิด โดย Facebook Live มียอดผู้เข้าชมมากถึง 1 ล้านคนภายในวันเดียวกัน และสามารถเข้าถึงผู้ชมกว่า 5.7 ล้านคน อีกทั้งยังมีการแชร์ต่อไปยัง Facebook ของสื่อมวลชนต่างๆ มากกว่า 20 ช่องทาง ทั้งนี้ “ตูน บอดี้สแลม” ยังเป็นตัวแทนของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบ “ชีวิตไร้กรอบ” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของผลิตภัณฑ์และแฮชแท็ก #ชีวิตไร้กรอบ ซึ่งคำนิยามใหม่นี้ได้แพร่กระจายออกไปในวงกว้างตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนและความโดดเด่นของแบรนด์ใปในทิศทางเดียวกัน
หลังงานเปิดตัว นอกจากซัมซุงจะปล่อยคลิปโฆษณาสั้น นำโดยแบรนด์แอมบาสเดอร์ “ตูน บอดี้สแลม” ลงบน Facebook และ YouTube เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงผู้ชมได้ถึงกว่า 7.4 ล้านวิว ซัมซุงยังปล่อยแคมเปญสุดตื่นเต้น “S8 Hunt - เกมล่า คว้าเอส 8” เพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม (Consumer Engagement) ผ่านช่องทางออนไลน์หลักอย่าง Facebook ซึ่งผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกและลุ้นระทึกไปกับประสบการณ์ตามล่าหากาแลคซี่ เอส 8 ที่ซ่อนอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร จากภาพปริศนาและคำใบ้ผ่านการไลฟ์ทางเฟสบุ๊คเพจ (Facebook Live) Samsung Mobile Thailand โดยกิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมถึง 4 พันคนในหนึ่งวินาทีแรก และกว่า 4 แสนคนในเวลา 4 ชั่วโมงผ่านช่องทาง Facebook Live Streaming
ความสำเร็จอย่างล้นหลามของการเปิดตัวซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+ ในประเทศไทยที่เน้นการใช้สื่อดิจิทัลเป็นหลัก นอกจากจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวไปจนถึงช่วงหลังเปิดตัว โดยมียอดค้นหา (Search Volume) พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับตอนก่อนเปิดตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการระดมเน้นใช้สื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียหลักอย่าง Facebook, Youtube และ Instagram ช่วยผลักดันการตลาดให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
“ผลลัพธ์ที่เราได้รับจากการซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8+ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาใช้ในการทำการตลาด โดยเราจะยังคงนำกลยุทธ์นี้มาปรับใช้กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเราในอนาคตอย่างแน่นอน” นายวิชัย กล่าวสรุป