ยนตรกิจปรับโครงสร้าง โยกไทยยานยนตร์ไปพระราม9-ดึงมืออาชีพเสริมทัพ

12 ส.ค. 2560 | 05:47 น.
ยนตรกิจฝั่งไทยยานยนตร์เตรียมโยกจากสาขาวิภาวดีฯไปสู่พระราม 9 พร้อมปรับโครงสร้างบริหารด้วยการตั้งทีมใหม่ ชูนโยบาย โมบิลิตี โซลูชัน ให้ความสำคัญกับลูกค้าและเดินหน้าเพิ่มเครือข่ายดีลเลอร์ มั่นใจเป้าหมายยอดขายทะลุ 500 คัน

ย้อนไปในปี 2551 ข่าวการแบ่งสมบัติของตระกูลลีนุตพงษ์ หรือในกลุ่มธุรกิจภายใต้ชื่อ ยนตรกิจ เป็นไปอย่างครึกโครม ทั้งนี้เพราะธุรกิจในเครือมีมากมายหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น โฟล์คสวาเกน, เซียท ,ออดี้, เปอโยต์, ซีตรอง, เกีย ,สโกด้า

ภายหลังจากปรับโครงสร้างกันเป็นที่เรียบร้อย ก็มีข่าวคราวออกมาเป็นระยะๆ เกี่ยวกับการแบ่งรอบที่ 2 และล่าสุดก็มีความเคลื่อน ไหวมาอีกระลอก จากฝั่งไทยยานยนตร์ ที่เป็นของ นายวิทิต ลีนุตพงษ์ ที่รับหน้าที่ดูแลแบรนด์โฟล์คสวาเกน ซึ่งแต่เดิมจะเห็นโชว์รูมและศูนย์บริการตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีฯ ใกล้กันกับห้าแยกลาดพร้าว ก็เตรียมโยกย้ายไปอยู่บนถนนพระราม 9

สำหรับนายวิทิต แม้จะมีธุรกิจส่วนตัวอย่างโฟล์คสวาเกน แต่ในช่วงปี 2557-2559 ได้รับมอบหมายอีกหนึ่งตำแหน่งคือการเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเอไอเอสฯ อย่างไรก็ดีในปลายปี 2559 นายวิทิตก็ได้ประกาศลาออกจากเอไอเอส พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าต้องการที่จะผลักดันให้โฟล์คสวาเกนมีการเติบโต ดังนั้นจึงมีการรื้อและปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่การโยกย้ายโชว์รูมและศูนย์บริการโฟล์คสวาเกนไปอยู่ที่พระราม 9

คาดว่าการย้ายในครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนพื้นที่โชว์รูมเดิมจะตกเป็นของ บาร์เซโลน่า มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู ที่บริหารโดย นายวิโรจน์ ลีนุตพงษ์ ที่จะมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อให้เป็นโชว์รูมขายรถใหม่-รถมือ 2 ของบีเอ็มดับเบิลยู

สาขาใหม่บนถนนพระราม 9 ยังถูกเซตให้เป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท โดยมีพื้นที่กว่า 5,000-6,000 ตารางเมตร มีการลงทุนรีโนเวตประมาณ 15-20 ล้านบาท และมีบริการหลังการขาย แบบเอ็กซ์เพรส เซอร์วิส 4 ช่องซ่อม

นอกจากการย้ายโชว์รูมและศูนย์บริการแล้ว ยังมีการจัดทัพผู้บริหารใหม่ที่เข้ามาดูแล โดยเพิ่งจะแต่งตั้งนายนัทธี โกมลเวชกุล เพื่อมาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพาณิชย์ บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์โฟล์คสวาเกน คาราเวล และชิ้นส่วนอะไหล่ของโฟล์คสวาเกนในประเทศไทย

บทบาทหน้าที่ของประธานเจ้าหน้าที่คนใหม่ จะมาพร้อมกับนโยบายหลักประกอบไปด้วย การชู “โมบิลิตี โซลูชัน” (Mobility Solution) เน้นสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าผู้ใช้รถ โดยจะมีการทำรถโมบาย เซอร์วิส รองรับการซ่อมด่วน-ซ่อมเบา หรือหากรถคันไหนซ่อมด่วนไม่ได้ และต้องใช้เวลานาน ก็จะมีรถทดแทน เพื่อใช้ในระหว่างการรอซ่อม
“ปัจจุบันเราจำหน่ายรถโฟล์คสวาเกน คาราเวล รุ่น T6 ขนาด 11 ที่นั่ง เพียงรุ่นเดียว โดยเป็นรถนำเข้ามาจากเยอรมนี สนนราคา 3.55 ล้านบาท”

นโยบายต่อมาคือดูแลลูกค้า ที่จะครอบคลุมตั้งแต่ เจ้าของรถ ,พนักงานคนขับรถ โดยบริษัทจะจัดกิจกรรมอบรมการขับขี่-อบรมทักษะพิเศษด้านต่างๆให้กับพนักงานขับรถ ในส่วนการขาย จะมีการตั้งทีมใหม่เพื่อมาดูแลลูกค้าโดยเฉพาะ มีการให้ข้อมูล-สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และในอนาคตกำลังพิจารณาแผนเกี่ยวกับแผนกรถมือ 2

นายนัทธี กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเข้ามาปรับโครงสร้างด้านต่างๆแล้ว จะมีการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด โดยปีนี้วางงบการสื่อสารไว้กว่า 30 ล้านบาท เพื่อเข้าหาลูกค้าได้ง่ายขึ้น ส่วนแผนงานด้านเครือข่าย กรุงเทพฯจะมี 6 แห่ง ส่วนต่างจังหวัด 9 แห่ง

ปัจจุบันโฟล์คสวาเกนมีฐานลูกค้าจำนวน 1 หมื่นราย และมีจำนวนรถที่แอกทีพประมาณ 3,500 คัน ขณะที่สัดส่วนการขายจะแบ่งออกเป็นขายฟลีต 15% และขายทั่วไป 85% ส่วนเป้าหมายการขายของโฟล์คสวาเก้นในปีนี้อยู่ที่ 500 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำยอดขายไม่ถึง 100 คัน

“ผลการดำเนินงาน 6 เดือนที่ผ่านมา เราทำยอดขายเข้าเป้าไปแล้วกว่า 40% และคาดว่าในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่เดือน จะทำได้ตามเป้า เพราะตามปกติตลาดครึ่งปีหลังจะมียอดขายที่สูงกว่าครึ่งปีแรก ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงที่จะเข้ามากระทบยังมองไม่เห็น”

ถือเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ของค่ายไทยยานยนตร์ ก็คงต้องติดตามกันว่าการปรับเปลี่ยนโยกย้ายในครั้งนี้โดยมีเป้าหมายการนำภาพลักษณ์องค์กรจากธุรกิจครอบครัวจะมุ่งไปสู่ธุรกิจมืออาชีพสำเร็จหรือไม่...

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560