บินไทยเปิดรับดีดีรอบ2 รองอธิบดีอายุงานไม่ถึงปีมีสิทธิ์คั่วเก้าอี้

06 ส.ค. 2560 | 23:20 น.
การบินไทย สรรหาดีดีรอบใหม่ เปิดสมัครถึงวันที่ 15 กันยายนนี้ ชี้มี 3 ประเด็นเปลี่ยนแปลงจากประกาศครั้งก่อน เพิ่มโอกาสให้ข้าราชการที่เคยเป็นระดับรองอธิบดีขึ้นไป แม้อายุงานไม่ถึงปี แล้วลาออกไปเป็นเบอร์ 2 บริษัทเอกชน รวมกันเกิน 1 ปี มีสิทธิยื่นได้ “อารีพงศ์” ลั่นปรับคุณสมบัติให้คนมาสมัครได้ง่ายขึ้น

หลังล้มกระดานสรรหา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ดีดีการบินไทย ของบอร์ดการ บินไทย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ด้วยเหตุผลว่าผู้สมัครทั้ง 4 รายที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาแล้ว ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ล่า สุดการบินไทยได้เริ่มกระบวน การสรรหารอบใหม่ โดยเปิดให้ผู้สนใจมายื่นใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายน 2560

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำ แหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ชุดล่าสุด ยังคงมีนายสมชัย สัจจพงษ์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสรรหา ส่วนคณะกรรมการสรรหาอีก 4 คนที่เหลือประกอบไปด้วย พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง นายคณิศ แสงสุพรรณ นายพีระพล ถาวร-สุภเจริญ และนายรัฐพล ภักดีภูมิ โดยผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้จนถึงวันที่ 15 กันยายนนี้

MP26-3285-4 การประกาศสรรหาฯในรอบนี้ มีการเพิ่มเติมและตัดบางข้อความในประเด็นที่เกี่ยวกับคุณ สมบัติของผู้สมัคร ซึ่งแตกต่างจากการประกาศรับสมัครครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ใน 3 ประเด็น โดยมีการเพิ่มเติมคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ในเรื่องความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ โดยเพิ่มมาอีก 1 ข้อ คือ “เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารของส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐเทียบเท่าระดับกรมขึ้นไป โดยต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารของหน่วยงานภาคเอกชนที่มีรายได้ในขณะดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ทั้งนี้เมื่อรวมกันแล้วจะต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งทั้ง 2 แห่งไม่น้อยกว่า 1 ปี”

“การเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในข้อดังกล่าว ถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการรับสมัครได้มากขึ้นกว่าครั้งก่อน เช่น หากคนที่ได้ระดับรองอธิบดี ยังไม่ถึงปี แล้วลาออกไปเป็นเบอร์ 2 ในบริษัทที่มีรายได้เกิน 10,000 ล้านบาท ยังไม่ถึงปีอีก แต่รวมการทำงานใน 2 ที่ เกิน 1 ปี ก็สามารถผ่านคุณสมบัติข้อนี้ได้ จากเดิมที่จะไม่มีสิทธิสมัคร จึงถือว่ามีความยืดหยุ่นขึ้น เพิ่มเติมจากที่ระบุว่าผู้สมัครระดับไม่ตํ่ากว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรของหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือผู้บริหารที่เป็นเบอร์ 2 ของหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันยื่นใบสมัคร

รวมถึงมีการปรับคุณสมบัติทั่วไป ที่มีการระบุว่าผู้สมัครต้อง “ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ” แต่ตัดคำว่า หรือพ้นโทษหรือพ้นระยะเวลาการรอการลงโทษหรือรอการกำหนดโทษแล้วแต่กรณี เกิน 5 ปี ที่เคยมีระบุต่อท้ายข้อความดังกล่าว ในคุณสมบัติการเปิดรับสมัครครั้งแรกออกไป รวมถึงมีการเพิ่มคุณ สมบัติทั่วไปขึ้นมาอีก 1 ข้อ คือ “ไม่อยู่ระหว่างมีประเด็นข้อพิพาท และหรือมีคดีความกับบริษัทการบินไทยฯ” ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ปี 2518 ที่มีการปรับแก้ไข

[caption id="attachment_134652" align="aligncenter" width="503"] อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม[/caption]

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า บอร์ดมีมติตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2560 ถึงการเดินหน้าสรรหากรรมการผู้อำนวยการ ใหญ่ (ดีดี) การบินไทยคนใหม่อีกครั้ง โดยคุณสมบัติของดีดีใหม่จะต้องรู้งาน สามารถกดปุ่มงานต่างๆ ได้ และทำตามแผนปฏิรูปองค์กร ที่หลักๆ จะเน้นใน 3 เรื่อง ได้แก่

1.องค์กรที่แข่งขันกับทั่วโลก ซึ่งการบินไทยเป็นธุรกิจเดียวในไทย ที่มีการแข่งขันในเวทีสากลระดับโลกตลอด 24 ชั่วโมง 2.ต้องมีความรู้ ด้านการบริการ ต้องเก่งมาก และทำตามทิศทางของแผนปฏิรูป 3.ต้องสื่อสารกับคนในการบินไทย เพื่อให้เดินหน้าตามแผนและรับภาระการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะสายการบินพรี เมียร์ในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์แอร์ไลน์สหรืออื่นๆ ที่สะท้อนออกมาในรูปของผลประ- กอบการเหล่านี้ถือเป็นคุณสมบัติ เด่นของ “ดีดี” คนใหม่

“ปัญหาที่ผ่านมา ที่การ บินไทย ต้องล้มกระบวนการสรรหาดีดีการบินไทยในครั้งที่ผ่านมา เป็นเพราะติดเรื่องการตี ความ เรื่องเข้าข่าย พ.ร.บ. คุณ สมบัติที่ระบุชัดว่าห้ามคนใดคนหนึ่งเคยทำธุรกิจกับการบินไทย มาก่อน ทำให้แคนดิเดตที่มาจากเอกชนหมดสิทธิ เพราะการบินไทยเป็นบริษัทใหญ่มีการทำธุรกรรมกับหลายบริษัทเอกชน ต้องตีความในเรื่องนี้และหาทางปรับคุณสมบัติของผู้สมัครให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะหาคนเข้ามาสมัครได้ง่ายขึ้น โดยมีนายสมชัย สัจจพงษ์ เป็นประธานสรรหาเหมือนเดิม” นายอารีพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560