MQDC ผุดเมืองอัจฉริยะ นำแนวพัฒนาวิสซ์ดอม วัน-โอ-วันในหัวเมืองหลัก
MQDC พัฒนาวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน เป็นเมืองต้นแบบอัจฉริยะการประหยัดพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จับต้องได้ ดึงกลุ่มทรูร่วมสร้างสรรค์ ทรู ดิจิทัล พาร์ค มั่นใจสิ้นปีนี้คอนโดมิเนียมอาคารแรกเสร็จ ต้นปี 2561 เริ่มโอน ตามด้วยพื้นที่ค้าปลีกและสำนักงานเฟส 1
นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานผู้อำนวยการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาโครงการของบริษัท คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจไปควบคู่กับการพัฒนาเมือง และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งชุมชนโดยรอบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาโครงการ WHIZDOM 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยที่อยู่อาศัย สำนักงาน และค้าปลีก ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะแห่งแรกในประเทศไทย จากการศึกษาเมืองอัจฉริยะหลายแห่งทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยบริษัท Gensler จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ออกแบบเมืองต้นแบบ และทำงานร่วมกับบริษัทออกแบบของไทยอีก 2 รายคือ บริษัท เอ 49ฯ กับ บริษัท เอชบี ดีไซน์ฯ
โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้สถานี BTS ปุณณวิถี เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท มีทั้งพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ที่พักอาศัย ที่ทำงาน และร้านค้า บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่ภายใต้แนวคิดเรื่องการผสมผสานกันระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อน ทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ พื้นที่ในส่วนเชิงพาณิชย์ทั้งหมดของโครงการ ถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ไฮบริด ที่ผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารเข้าด้วยกันในขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย
โดยกระบวนการออกแบบและแนวคิดเพื่อการประหยัดพลังงานนี้ มี 3 องค์ประกอบที่สำคัญคือ 1. การใช้ธรรมชาติมาช่วยออกแบบ ด้วยการออกแบบตัวอาคารให้ประหยัดพลังงาน โดยหันอาคารให้รับแดดน้อยลงและรับลมได้ดีขึ้น สามารถลดการใช้พลังงาน ทำให้เปิดเครื่องปรับอากาศน้อยลง ส่งผลให้โครงการ วิสซ์ดอม 101 ได้รับรางวัลจากกระทรวงพลังงานในการประกวดโครงการต้นแบบเมืองอัจฉริยะ เพื่อพัฒนาเมืองของชุมชน สู่เมืองอัจฉริยะ ตามเจตนารมณ์ของภาครัฐ เนื่องจากตัวอาคารสามารถลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2. การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การนำเทคโนโลยีเติมอากาศตลอด 24 ชั่วโมงมาใช้ในโครงการ ทำให้อุณหภูมิภายในใกล้เคียงกับอุณหภูมิภายนอก และใช้ระบบ District Cooling Plant เพื่อลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศ และ 3. การใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดการใช้พลังงาน โครงการ มีการออกแบบพื้นทางเชื่อมบริเวณสกายวอล์ก หน้าโครงการให้สามารถสร้างพลังงานจากการสั่นสะเทือน และนำไปใช้เพื่อเป็นไฟส่องสว่างทางเดิน ลดการใช้พลังงาน ทั้งนี้จะเริ่มก่อสร้างสกายวอล์กใน 2-3 เดือนนี้ และเสร็จในปี 2561
นอกจากนี้ได้ร่วมกับกลุ่มทรู พัฒนาโครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” ศูนย์กลางสร้างสรรค์งานวิจัยนวัตกรรมด้านดิจิตอล ภายใต้ระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจรแห่งแรกของไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงทุนโดยภาคเอกชน
“โครงการวิสซ์ดอม 101 เป็นทั้งเมืองต้นแบบอัจฉริยะ และยังเป็นศูนย์กลางโครงการมิกซ์ยูส ในทุกทิศทางของกรุงเทพ มหานคร อนาคตจะนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาในต่างจังหวัดและต่างประเทศคือจีนด้วย”
สำหรับความคืบหน้าโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน เริ่มก่อสร้างมา 2 ปีแล้ว สิ้นปีนี้คอนโดมิเนียมอาคารแรก “วิสซ์ ดอม คอนเน็ค”จะแล้วเสร็จ ต้นปี 2561 เริ่มโอน ถัดไปกลางปี 2561 พื้นที่เช่า เฟส 1 ส่วนที่เป็นห้าง และสำนักงาน ซึ่งฝ่ายปฏิบัติการของทรู จะย้ายเข้ามา ก็จะเสร็จ และจะก่อสร้างเฟส 2 ให้แล้วเสร็จภายในอีก 2 ปีถัดไป หรือประมาณปี 2563
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560
นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานผู้อำนวยการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาโครงการของบริษัท คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจไปควบคู่กับการพัฒนาเมือง และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งชุมชนโดยรอบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาโครงการ WHIZDOM 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยที่อยู่อาศัย สำนักงาน และค้าปลีก ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะแห่งแรกในประเทศไทย จากการศึกษาเมืองอัจฉริยะหลายแห่งทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยบริษัท Gensler จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ออกแบบเมืองต้นแบบ และทำงานร่วมกับบริษัทออกแบบของไทยอีก 2 รายคือ บริษัท เอ 49ฯ กับ บริษัท เอชบี ดีไซน์ฯ
โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้สถานี BTS ปุณณวิถี เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท มีทั้งพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ที่พักอาศัย ที่ทำงาน และร้านค้า บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่ภายใต้แนวคิดเรื่องการผสมผสานกันระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อน ทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ พื้นที่ในส่วนเชิงพาณิชย์ทั้งหมดของโครงการ ถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ไฮบริด ที่ผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารเข้าด้วยกันในขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย
โดยกระบวนการออกแบบและแนวคิดเพื่อการประหยัดพลังงานนี้ มี 3 องค์ประกอบที่สำคัญคือ 1. การใช้ธรรมชาติมาช่วยออกแบบ ด้วยการออกแบบตัวอาคารให้ประหยัดพลังงาน โดยหันอาคารให้รับแดดน้อยลงและรับลมได้ดีขึ้น สามารถลดการใช้พลังงาน ทำให้เปิดเครื่องปรับอากาศน้อยลง ส่งผลให้โครงการ วิสซ์ดอม 101 ได้รับรางวัลจากกระทรวงพลังงานในการประกวดโครงการต้นแบบเมืองอัจฉริยะ เพื่อพัฒนาเมืองของชุมชน สู่เมืองอัจฉริยะ ตามเจตนารมณ์ของภาครัฐ เนื่องจากตัวอาคารสามารถลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2. การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การนำเทคโนโลยีเติมอากาศตลอด 24 ชั่วโมงมาใช้ในโครงการ ทำให้อุณหภูมิภายในใกล้เคียงกับอุณหภูมิภายนอก และใช้ระบบ District Cooling Plant เพื่อลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศ และ 3. การใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดการใช้พลังงาน โครงการ มีการออกแบบพื้นทางเชื่อมบริเวณสกายวอล์ก หน้าโครงการให้สามารถสร้างพลังงานจากการสั่นสะเทือน และนำไปใช้เพื่อเป็นไฟส่องสว่างทางเดิน ลดการใช้พลังงาน ทั้งนี้จะเริ่มก่อสร้างสกายวอล์กใน 2-3 เดือนนี้ และเสร็จในปี 2561
“โครงการวิสซ์ดอม 101 เป็นทั้งเมืองต้นแบบอัจฉริยะ และยังเป็นศูนย์กลางโครงการมิกซ์ยูส ในทุกทิศทางของกรุงเทพ มหานคร อนาคตจะนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาในต่างจังหวัดและต่างประเทศคือจีนด้วย”
สำหรับความคืบหน้าโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน เริ่มก่อสร้างมา 2 ปีแล้ว สิ้นปีนี้คอนโดมิเนียมอาคารแรก “วิสซ์ ดอม คอนเน็ค”จะแล้วเสร็จ ต้นปี 2561 เริ่มโอน ถัดไปกลางปี 2561 พื้นที่เช่า เฟส 1 ส่วนที่เป็นห้าง และสำนักงาน ซึ่งฝ่ายปฏิบัติการของทรู จะย้ายเข้ามา ก็จะเสร็จ และจะก่อสร้างเฟส 2 ให้แล้วเสร็จภายในอีก 2 ปีถัดไป หรือประมาณปี 2563
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560