กรมโรงงานฯเปิดตัว AUTO e-License ขออนุญาตนำกากฯออกนอกรง.ใน 3 นาที

26 ก.ค. 2560 | 10:05 น.
กรมโรงงานฯเปิดตัว AUTO e-License สมองกลทำงานแทนเจ้าหน้าที่  ขออนุญาตนำกากฯ ออกนอกโรงงานใน 3 นาที

กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดตัวระบบ AUTO e-License ระบบการขออนุญาตนำกากที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงานเพียง 3 นาทีด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์  โดยผู้ประกอบการเพียงยื่นขออนุญาต สก.2 ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้นระบบฯ จะตรวจสอบข้อมูลทุกรายการในคำขอที่ยื่นขออนุญาต กับข้อมูลสารสนเทศที่มีในระบบ และจะประมวลผลพิจารณาอนุญาตตามเงื่อนไขโดยอัตโนมัติ  ซึ่งระบบจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาตแทนเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามในอดีตผู้ประกอบการต้องใช้เวลายื่นเอกสารกว่า 10-30 วัน โดยการพัฒนาดังกล่าวล้วนสอดรับ นโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

[caption id="attachment_185513" align="aligncenter" width="354"] ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม[/caption]

ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันกากอุตสาหกรรมในระบบมีมากถึงปีละ 38 ล้านตัน  ประกอบกับการขออนุญาตนำกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงานต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนที่รัดกุมตามที่กฎหมายกำหนดมากมาย จึงทำให้ที่ผ่านมาการนำกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงานแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้พัฒนาระบบการอนุญาตกากอุตสาหกรรมในรูปแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-License) เพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการ และอำนวยความสะดวกเพิ่มความรวดเร็วในการนำกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงาน โดยเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขออนุญาตผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการยกระดับการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ความเป็น Digital Government ตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะพัฒนาองค์กรเข้าสู่ Industry 4.0 และกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะได้พัฒนาองค์กรเข้าสู่ DIW 4.0 เช่นเดียวกัน เพื่อให้กากอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบภายในเวลา 5 ปี

[caption id="attachment_185514" align="aligncenter" width="503"] นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม[/caption]

ด้าน นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวถึงรายละเอียดของระบบ AUTO e-License ด้วยปัญญาประดิษฐ์ว่า ผู้ประกอบการเพียงยื่นขออนุญาต สก.2 ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้นระบบฯ จะตรวจสอบข้อมูลทุกรายการในคำขอที่ยื่นขออนุญาตกับข้อมูลสารสนเทศที่มีในระบบ และจะประมวลผลพิจารณาอนุญาตตามเงื่อนไขโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาตแทนเจ้าหน้าที่ และจะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเพียง 3 นาที โดยการทำงานของระบบจะพิจารณาข้อมูลเอกสารที่ยื่นผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น และปลายทางบริษัทผู้รับกำจัดจะต้องเป็นกลุ่มผู้ประกอบการชั้นดี โดยในปี 2560 นี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำร่องร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการนำร่องการอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ AUTO e-License และบริษัทผู้รับบำบัด/กำจัดกากอุตสาหกรรม  จำนวน 9 กลุ่ม รวมทั้งสิ้น 14 บริษัท ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการชั้นดีที่คัดกรองโดยกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

el01 จากการขออนุญาตในระบบปกติที่ผ่านเจ้าหน้าที่มีระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนดประมาณ 30 วัน การดำเนินงานพิจารณาอนุญาต สก.2 รูปแบบใหม่ในระบบปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นการพิจารณาอนุญาตโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างแท้จริง หากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้การพิจารณาอนุญาต สก.2 เกิดความรวดเร็ว ชัดเจน เป็นมาตรฐานหนึ่งเดียว และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาอนุญาต ตลอดจนผู้ประกอบกิจการโรงงาน และผู้รับบำบัด/กำจัด และในอนาคตจะนำไปขยายผลใช้กับกลุ่มผู้ประกอบการรับบำบัด/กำจัดของเสียได้ทั้งหมด นายมงคล กล่าวทิ้งท้าย

[caption id="attachment_185515" align="aligncenter" width="292"] นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย[/caption]

ด้าน นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการก้าวสู่การยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและสอดคล้องกับเป้าหมายของสภาอุตสาหกรรมที่ต้องการให้การยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมรวดเร็ว ประกอบกับในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดูแลผู้ประกอบการในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจึงทำได้อย่างรวดเร็ว  รวมถึงจะช่วยให้ภาครัฐสามารถจัดการกากอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิผลอันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

[caption id="attachment_185517" align="aligncenter" width="332"] นายพิษณุ จารุพัฒนสิริ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายพิษณุ จารุพัฒนสิริ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย[/caption]

นายพิษณุ จารุพัฒนสิริ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการชั้นดีที่ทางกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม คัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการนำร่องฯ ดังกล่าว เป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และมีประสบการณ์ในการกำจัดกากอุตสาหกรรม มีความรับผิดชอบสูงต่อสังคมและเข้าร่วมโครงการรางวัลเหรียญทองยกระดับผู้ประกอบการรับกำจัดกากอุตสาหกรรมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และมีมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อม และกลุ่มยังมีภารกิจร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายโครงการในการพัฒนาการจัดการสิ่งแวดล้อมในภาคอุตสาหกรรมให้มีมาตราฐานยิ่งๆ ต่อไป