KTAM มองตราสารหนี้สั้น-กลางน่าสนใจ ต่างชาติยังเข้าลงทุน

26 ก.ค. 2560 | 04:23 น.
KTAM จ่ายปันผลกองทุน กรุงไทยตราสารหนี้ (KTFIXPLUS) 13 สตางค์/หน่วย มองตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะกลางยังน่าสนใจ เงินต่างชาติเข้ามาพักเงินลงทุนช่วงเศรษฐกิจโลกผันผวน พร้อมเสิร์ฟกองทุนอายุ 6 เดือน ชู 1.40%ต่อปี

[caption id="attachment_185262" align="aligncenter" width="335"] นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ พลัส (KTFIXPLUS-D) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 มกราคม -30 มิถุนายน 2560 ในอัตรา 0.13 บาทต่อหน่วยโดยจะทำการปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 สิงหาคม 2560

กองทุน KTFIXPLUS-D มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนอาจจะพิจารณานำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ50ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะกลาง ในปัจจุบันยังคงมีความน่าสนใจ จากการที่ยังมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยที่ถือเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยจากความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะจากความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการคลังของสหรัฐอเมริกา รวมถึงทิศทางของการดำเนินนโยบายการเงินที่มีความเข้มงวดมากขึ้นจากการที่ Fed มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องและเตรียมที่จะลดขนาดงบดุล และหลายๆประเทศเริ่มมีการปรับนโยบายการเงินให้มีความเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 161 ( KTFF161) เสนอขายวันที่ 26 กรกฎาคม -2 สิงหาคม 2560 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of china , The Bank of East Asia Limited , Bank of Communications และเงินฝากประจำ Agricultural Bank of China ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ส่วนที่เหลือลงทุนในบัตรเงินฝาก Kookmin Bank 14% และเงินฝากประจำ Union National Bank PJSC 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี

สำหรับแนวโน้มผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัว ลดลงเกือบทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยฉพาะตราสารอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวลดลงมากกว่าช่วงอายุอื่นตามความต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนในอนาคตที่มาจากปัจจัยต่างประเทศ

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุคงเหลือต่ำกว่า 2 ปี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุลของเฟด ในขณะที่ตราสารอายุคงเหลือตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไปอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามคาดและจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาที่อาจทำให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลต้องชะลอออกไป โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.34% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.80% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.24% ต่อปี