กรมการขนส่งทางบก งด!ให้บริการรับชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้า ตามโครงการ“ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี” (Shop Thru for Tax) และศูนย์บริการร่วม G-point (เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัลศาลายา,เซ็นทรัลเวสต์เกต) ในวันเสาร์ที่ 29 และวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค.2560 เนื่องจากปิดปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ชั่วคราว เผยครึ่งปี 2560 จัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานครได้กว่า 4,300 ล้านบาท
นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้แจ้งปิดปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ชั่วคราว ในช่วงวันหยุดยาว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2560 ถึงวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2560 ส่งผลให้ต้อง “งด” ออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีตามโครงการ “ช็อปให้พอ แล้วต่อภาษี : Shop Thru for Tax” ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทั้ง 14 สาขา ในวันเสาร์ที่ 29 และวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2560 ได้แก่ สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม อ่อนนุช สุขาภิบาล3 บางบอน สุวินทวงศ์ แจ้งวัฒนะ บางใหญ่ สำโรง สมุทรปราการ และบางนา ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลรามอินทรา เซ็นทรัลลาดพร้าว ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค และศูนย์บริการร่วม G-point (เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัลศาลายา,เซ็นทรัลเวสต์เกต)
โดยจะเปิดให้บริการตามปกติในวันเสาร์และวันอาทิตย์ถัดไป รวมถึงระบบการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านเว็บไซต์ https://www.dlte-serv.in.th และผ่านสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ซึ่ง ปิด ให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2560 และบริการรับชำระภาษีรถผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2560 โดยจะสามารถใช้งานได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป และเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการติดต่องานด้านต่างๆ แนะนำให้ประชาชนติดต่อดำเนินการล่วงหน้าหรือดำเนินการ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งยกระดับการให้บริการประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว เพิ่มช่องทางเลือกให้ประชาชนสามารถใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีอย่างหลากหลาย ผลปรากฏว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2560 สามารถจัดเก็บภาษีรถประจำปีเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ได้ทั้งสิ้น 4,346,021,533.69 บาท เป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 ของกรมการขนส่งทางบกมากที่สุด จำนวน 2,747,703 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 2,951,706,994.73 บาท รองลงมาเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี” (Drive Thru for Tax) จำนวน 451,332 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 804,028,659.54 บาท และการใช้บริการชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้าใน วันเสาร์ – อาทิตย์ ตามโครงการ“ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี” (Shop Thru for Tax) มีประชาชนมาใช้บริการจำนวน 238,765 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 350,853,733.43 บาท นอกจากนี้เป็นการชำระภาษีผ่านช่องทางอื่นๆ ได้แก่ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่เว็บไซต์ www.dlte-serv.in.th เคาน์เตอร์เซอร์วิส ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปรษณีย์ และผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 239,432,145.99 บาท