wongnai ชู 4 แผนขับเคลื่อนองค์กร

25 ก.ค. 2560 | 07:53 น.
“ซีอีโอ” วงในดอทคอม ส่งจดหมายน้อยถึงพนักงานหลัง ครบรอบแจ้งเกิด 7 ปี พร้อมโฟกัส 4 ส่วน การเติบโต-กลยุทธ์-ระดมทุน-บุคลากร เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายนำ บริษัทระดมทุนอีก 3 ปีข้างหน้า

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด ได้ส่งจดหมายถึงพนักงานจำนวน 165 คน หลังบริษัทครบรอบการก่อตั้งมา 7 ปีว่า บริษัทกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ “บริษัทที่ใหญ่ขึ้น” โดยสมบูรณ์ ที่เห็นได้ชัดเจนคือตั้งแต่จำนวนพนักงานเกิน 150 คนเป็นต้นมา ผมก็เริ่มไม่สามารถที่จะจำชื่อทุกคนได้ง่ายๆ แบบสมัยก่อนอีกแล้ว (ยังพยายามจะทำอยู่ แต่รู้สึกว่า 2 เดือนหลังยากขึ้นมาก) เมื่อบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้นก็ต้องปรับตัวมากอยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี 4 เรื่องด้วยกันที่ได้วางเป้าหมาย (ดูตารางประกอบ) เรื่องแรก คือ Growth ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา underlying growth (การเติบโตที่สำคัญ) ของบริษัท คือ จำนวนยูสเซอร์ต่อเดือนเติบโตขึ้นมากกว่า 33% แล้วเมื่อเทียบกับปี 2559 และเป็นเว็บไซต์อันดับ 90 ในไทยจากที่เคยอยู่อันดับที่ร้อยกว่ามาก่อนหน้านี้

สำหรับเรื่องที่ 2 คือ Long-Term Strategy พยายามที่จะ proactiv (เชิงรุก) มากขึ้นในเรื่องของการตัดสินใจว่าบริษัทจะทำหรือไม่ทำอะไร โดยยึดวิสัยทัศน์หลักของบริษัทเป็นสำคัญ จะพยายามคิดถึงว่าสิ่งที่กำลัง “connect people to good stuff” อยู่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะหยุดธุรกิจ “ดีล” ร้านอาหาร ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ ไม่มีดีลที่ดีมากพอ

MP22-3281-C “แต่ถ้าทำแล้วไม่รู้สึกว่าสร้างมูลค่าให้กับผู้ใช้บริการได้จริงๆ เราก็ควรหยุดดีกว่า (แต่ Bangkok Restaurant Week ยังเวิร์กอยู่นะครับ เพราะพอเราทำเป็น campaign จำกัดระยะเวลา เราได้ร้านดีๆ เข้ามามากจริงๆ)”

ส่วนเรื่องที่ 3 คือนำบริษัทเข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะได้ประกาศตั้งแต่ต้นปีว่าภายในปี 2562 แต่ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไรผ่านมาประมาณครึ่งปี มีเวลา คิดจนตกผลึก ถึงเหตุผลที่ระดมทุน คือ 1.มันเป็น once in a lifetime opportunity-บริษัท top 10 ในโลกปัจจุบัน มีถึง 7 บริษัทที่เป็นบริษัทเทคโนโลยี/อินเตอร์เน็ต (top 5 ที่อเมริกา และ Tencent, Alibaba ที่จีน) หันมามองที่ไทย บริษัท top 20 ในไทย ไม่มีบริษัทเทคโนโลยี/อินเตอร์เน็ต เลยสักบริษัทเดียว มันแปลกไหม? และมันมีสิทธิจะเปลี่ยนได้หรือไม่? การเปลี่ยนผ่านจากโลกอนาล็อกมาเป็นโลกดิจิตอลมันจะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ครับ และมันกำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ในยุคนี้ และเป็นเรื่องชาตินิยมเพราะปัจจุบัน ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ประเทศไทยได้นำเข้าเทคโนโลยีมาเกือบจะ 100% ดังนั้นหากนำบริษัทเข้าไประดมทุนในตลาดได้เป็นการเปิดโอกาสและเป็นความหวังให้บริษัทเทค/อินเตอร์ เน็ตสัญชาติไทยอีกเยอะ บริษัทอาจจะไม่ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่อย่างน้อยเป็นบริษัท “ทีมชาติ” ก็ยังดี

“ถ้านำบริษัทเข้าระดมทุนได้จะเกิดความเท่ เพราะเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตรายแรกในไทยที่ได้เข้าไประดมทุน และเป็นวิธีที่เร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดที่จะตอบแทนทุกคนที่ร่วมก่อตั้งวงในด้วยกันมาและพนักงาน วงในหลายสิบคนที่จะได้ Stock Options ไปใน quarter 3 นี้ครับ (อย่างน้อยคือคนที่อยู่มาเกิน 3 ปี และคนที่มีผลงานหรือทัศน คติที่โดดเด่น)”

สำหรับเรื่องที่ 4 คือเรื่องคนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานกับทีมแต่ก็ยังมีอีกเกือบ 100 คนที่ไม่ได้ทำงานโดยตรง สิ่งหนึ่งที่จะช่วยรักษา “ความเป็นวงใน” คือวัฒนธรรมขององค์กรและตัว core values ที่จะกำหนดว่า องค์กรจะทำสิ่งต่างๆ “แบบไหน”

“ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้สึกพอใจ 100% กับวัฒนธรรมองค์กร ผมถามตัวเองว่าเราขยายทีมเร็วเกินไปไหม เราได้สร้างทีมที่ดีพอขึ้นมาหรือยัง: เรามีคนเก่งอยู่ในบริษัทมากพอหรือไม่? มีคนบอกว่าบริษัทเราพึ่ง Co-Founders เยอะเกินไป ทำไมล่ะ น้องเราเก่งไม่พอเหรอ แต่มันก็มีสัญญาณที่ดีอยู่เหมือนกัน เราได้รับเลือกเป็น Top 5 Tech Employer จากการสำรวจของ NIDA ถึง 2 ครั้ง (ครั้งที่ 2 เขารอ 6 เดือนสำรวจซํ้า เราก็ยังอยู่ในท็อปไฟว์) และล่าสุด Techsauce ก็ยังรายงานจากอีกสำนักนึงว่าเราอยู่อันดับ 3 เราวิ่งมาราธอนมาครบ 7 ปีแล้ว แต่ผมมีไฟยิ่งกว่าตอนออกวิ่งใหม่ๆ เสียอีก เพราะมองเห็นเส้นชัยอยู่ลิบๆ แล้วเรามาออกไปแตะขอบฟ้าด้วยกันนะครับ” นายยอด กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,281 วันที่ 23 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560