วันที่ 28 มิ.ย.60 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงภายหลังการเผยแพร่รายงานการค้ามนุษย์ (ทิปรีพอร์ต) ประจำปี 2560 ว่า มั่นใจว่าการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยดีขึ้น อาทิ การอายัดทรัพย์ของกลุ่มค้ามนุษย์ได้กว่า 7 ร้อยล้านบาท และมีความพยายามในการคัดแยกผู้เสียหายจากการมนุษย์อย่างเป็นระบบ เป็นต้น แต่ยังคงมีข้อแนะนำต่อรัฐบาล 11 ข้อ ที่รัฐบาลไทยจะต้องเพิ่มมาตรการให้มีความเข้มข้นต่อไป โดยเฉพาะการดำเนินคดีต่อกลุ่มค้ามนุษย์ในกระบวนการยุติธรรม
ทั้งจากรายงานการค้ามนุษย์ ประจำปี 2560 มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล 11 ข้อ ประกอบด้วย
1. ให้ความสำคัญกับการสอบสวนและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
2. เพิ่มความพยายามในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งกลุ่มผู้อพยพ ลูกเรือประมง กลุ่มบุคคลไร้รัฐ กลุ่มเด็ก และกลุ่มผู้ลี้ภัย
3. ดำเนินคดีและตัดสินโทษผู้ค้ามนุษย์ โดยให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎมายที่ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง
4. เพิ่มการอบรมให้แก่ผู้บังคับใช้กฎหมาย และตระหนักถึงรูปแบบของการบังคับใช้แรงงานที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย
5. เพิ่มการฝึกอบรมและทรัพยากรสำหรับทีมสหวิชาชีพและพนักงานตรวจแรงงาน
6. เพิ่มแรงจูงใจสำหรับผู้เสียหายที่ให้ความมือทางกฎหมาย การสืบสวน และการดำเนินคดีค้ามนุษย์ รวมทั้งการให้ทางเลือกแก่ผู้เสียหายชาวต่างชาติในการส่งไปยังประเทศ ที่อาจเผชิญกับการแก้แค้นหรือความยากลำบาก
7. ใช้แนวทางปฏิบัติและเพิ่มประสิทธิภาพในการะบวนการคัดแยกอย่างเคร่งครัด
8. กำกับดูแลและตรวจสอบแนวทางการจัดหาแรงงานต่างด้าว และข้อบ่งชี้เกี่ยวกับการค้ามนุษย์
9. ส่งเสริมความร่วมมือกับภาคประชาสังคมให้เพิ่มมากขึ้น ในด้านการสืบสวนและการรายงานอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์
10. เพิ่มความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างความตระหนักต่อปัญหาการค้ามนุษย์ให้กับนายจ้างและลูกค้าในธุรกิจให้บริการทางเพศ ร่วมทั้งนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการทางเพศ
11. ปรับปรุงประสิทธิภาพและสถานะทางกฎหมายของแรงงานต่างด้าว และนโยบายด้านการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวเพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์