นายกฯเผยมีรายชื่อ “ทีมปฏิรูปตร.”แล้ว

27 มิ.ย. 2560 | 11:33 น.
วันนี้ (27 มิ.ย. 60) – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเสนอให้ระงับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่มีปัญหาเรื่องการซื้อขายตำแหน่งไว้ก่อนว่า ตนคิดว่ามันไม่สมควรในเรื่องนี้ต้องไปสอบสวนกันมา ตรงไหนผิดตรงไหนถูก เฉพาะกรณีไป คำสั่งทั้งหมดมีตั้งหลายพันคน ถ้าไปยกเลิกพวกเขาทั้งหมดจะถูกต้องหรือไม่ ตรงไหนมีปัญหาก็ไปแก้ไขตรงนั้น อย่าไปมองทั้งหมด

"คนที่ทำงานวันนี้จะทำอย่างไรกับพวกเขา และพวกเขาก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปแล้ว ต้องคุ้มครองสิทธิของพวกเขาด้วย ต้องเป็นบางกรณีแยกแยะไม่ออก มันยังอยู่ในกระบวนการอยู่ ในเรื่องการปฏิรูปตำรวจตนให้ความสำคัญอยู่แล้ว วันนี้ตนย้ำในที่ประชุมครม. ไม่ใช่ที่ผ่านมาตนไม่สนใจ ตนมีการให้พิจารณาของคณะกรรมการภายในของตำรวจมาแล้ว คราวนี้รัฐบาลจะต้องตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งในวันนี้มีรายชื่อออกมาแล้ว แต่ตนยังไม่สามารถแถลงได้ ได้รวบรวมไว้ที่ฝ่ายกฎหมายอยู่ จะต้องทำงานให้สอดคล้องกับคณะปฏิรูปตำรวจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเหลือเวลา 9 เดือน ตนคงจะเน้นเรื่องของการปฏิรูปองค์กร ซึ่งมีหลายกิจกรรมด้วยกัน มี 3 กลุ่มงานหลักได้แก่ เรื่องการปฏิรูปองค์กรตำรวจ การปฏิรูปกฎหมายกระบวนการยุติธรรมของตำรวจ และเรื่องบุคลากร ในแต่ละกลุ่มงานจะมีกลุ่มงานย่อยอีกหลายสิบกิจกรรมอยู่ข้างล่าง ตรงนี้ตนได้สั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการข้างล่างให้ตรงกับตรงนี้ และคณะกรรมการปฏิรูปของรัฐบาลจะดำเนินการ และจะดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกันพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเป็นคณะกรรมการปฏิรูป ซึ่งมีทั้งพลเรือน ข้าราชการตำรวจ และไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ผู้ที่มีผลได้ผลเสียจากการทำงาน ในวันนี้ต้องทำให้เกิดความชัดเจนให้มากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ก็ขอให้ใจเย็นๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ถ้าได้คำตอบมาก็แก้ได้เลย ใช้กฎหมาย ใช้คำสั่ง ตนก็ทำได้ทันที แต่จะต้องรอบคอบ เพราะการทำนั้นมีผลกระทบในระยะยาวด้วย เราต้องมาดูว่าจะมองจากต่างประเทศอย่างเดียว ประเทศไทยตนเคยบอกไปแล้ว เหมือนต่างประเทศมากน้อยเพียงไหนไปดู คนของเราสังคมของเรามีแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ทำงานตามกฎหมาย สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับภาคประชาชน ประชาชนก็ร่วมเป็นกำลังใจช่วยกันเฝ้าระวัง

"ถ้าเราโยนกันไปมาก็เป็นแบบนี้ ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันตลอดไป หลายอย่างผู้กระทำผิดกฎหมายก็จะต้องคุ้มครองพวกเขา แต่การคุ้มครองไม่ใช่ว่าจะให้ทำความผิดต่อไปได้ เพราะจะไปสู่เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ เรื่องการแต่งตั้ง การเลื่อนยศ ปลด ย้าย ก็จะไปอยู่ในหัวข้อของการปฏิรูปบุคลากร ในเรื่องเงินเดือน เงินค่าตอบแทน ค่าปรับก็จะไปว่ากัน ใน 3กลุ่มงานหลักที่ตนได้บอกไป ตนได้ให้คอนเซ็ปต์ไปทำตามนั้น ได้มอบหมาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ลงไปหารือกับทุกภาคส่วน"