ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน : เสื้อแดง...ความรุนแรงที่มีอยู่จริง
ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน
โดย : สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
เสื้อแดง...ความรุนแรงที่มีอยู่จริง
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ วัย 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้
ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่บรรดาแกนนำนปช. หรือแนวร่วมคนเสื้อแดง ที่ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจับ "แพะ" หรือไม่? มีการสร้างหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เชื่อมโยงกับคนเสื้อแดงหรือไม่?
ที่สำคัญก็คือการยืนยันว่าแนวทางคนเสื้อแดงนั้นต่อสู้ด้วย "สันติวิธี"????
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ภายหลังการจับกุมนายวัฒนาแล้ว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ก็ออกมายืนยันว่า “นปช.เรามีแนวทางสันติวิธี ไม่มีวิธีอื่น ไม่สนับสนุนวิธีอื่น”เท่ากับปัดว่านายวัฒนา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ นปช.
แถมโจมตีเจ้าหน้าที่ด้วยว่า “ส่วนรูปแบบการเชื่อมโยง การตั้งข้อกล่าวหา ตั้งข้อสงสัยก็ทำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำมา ไม่รู้จักเบื่อกันหรือ มันง่ายเหลือเกิน นาฬิกาใหม่ ผ้าแดงใหม่เอี่ยม อุปกรณ์ก็ใหม่ ทหารควรเอาตัวไปให้ตำรวจสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้กระทบกระเทือนต่อจิตใจคนไทย” ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนไทยกลุ่มไหน?????
เพราะนายวัฒนาได้ "รับสารภาพ" ไปแล้ว แถมยังบอกว่าไม่ได้ทำเพียง 3 ที่ เริ่มจากหน้ากองสลาก ถนนราชดำเนิน โรงละครแห่งชาติ และระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่นายวัฒนา กลับสารภาพเองว่า ได้ทำมาแล้วก่อนหน้านั้นอีก 3 ครั้ง
แถมนายวัฒนา ไม่ได้ปฏิเสธเลยว่า สิ่งของ หรือหลักฐานที่พบเหล่านั้น ไม่ได้เป็นของตัวเอง!!!! ที่ทำทั้งหมดเพราะไม่ชอบทหาร!!!
ถึงเวลานี้ควรยอมรับกันได้แล้วหรือไม่ว่าในหมู่คนเสื้อแดงนั้นมีแนวทางการต่อสู้แยกออกเป็น" 2 แนวทาง" ด้านหนึ่งก็อ้าง "สันติ" แต่อีกด้านหนึ่งก็ "รุนแรง"
มีคำถามที่น่าสนใจคือ นายวัฒนาไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน? ตอบได้เลยว่าเพราะมีองค์กรลับเป็นองค์กรจัดตั้งสร้างเป็นเครือข่ายกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยกลุ่มละ 5 ถึง 10 คน ทำการต่อสู้ด้วยความรุนแรงโดยมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนที่ยึดถือกันในกลุ่มนั้น ก็คือต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศนี้เป็น "สหพันธรัฐ"!!
โดยมีเอกสารที่ใช้ในการปลุกเร้าชี้นำชื่อว่า “สงครามอภิมหาอมตะยุทธ์ สงครามระหว่างเทวดา กับไพร่สารขัณฑ์” ขยายความว่าไพร่สู้นาย และสงครามชนชั้น ซึ่งเนื้อหาหนังสือคือการชี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วย "ความรุนแรง"
ก่อนหน้านี้ได้เคยมีการจับกุม "นายมหาหิน ขุนทอง" ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา ที่ยอมรับสารภาพว่าที่ทำเพราะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นสหพันธรัฐ เป็นอุดมการณ์ของกลุ่มตัวเองที่เรียกกันว่ากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ โดยในกลุ่มมีการศึกษาร่วมกันประมาณ 10 คน
ดังนั้นการที่แกนนำ นปช.บอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องการต่อสู้ด้วยความ"รุนแรง" ก็มีความเป็นไปได้!!!
แต่ควรจะ "ยอมรับ"ได้แล้วว่าในหมู่คนเสื้อแดงนั้นมีกลุ่มที่ต่อสู้ด้วย"ความรุนแรง"อยู่จริง ดังได้ปรากฏชัดตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุม หรือแม้แต่การประกาศยืนยันด้วยตัวเองอย่างของนายโกตี๋ เป็นต้น
คอลัมน์ : ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน / หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3272 ระหว่างวันที่ 22-24 มิ.ย.2560
โดย : สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
เสื้อแดง...ความรุนแรงที่มีอยู่จริง
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ วัย 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้
ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่บรรดาแกนนำนปช. หรือแนวร่วมคนเสื้อแดง ที่ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจับ "แพะ" หรือไม่? มีการสร้างหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เชื่อมโยงกับคนเสื้อแดงหรือไม่?
ที่สำคัญก็คือการยืนยันว่าแนวทางคนเสื้อแดงนั้นต่อสู้ด้วย "สันติวิธี"????
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ภายหลังการจับกุมนายวัฒนาแล้ว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ก็ออกมายืนยันว่า “นปช.เรามีแนวทางสันติวิธี ไม่มีวิธีอื่น ไม่สนับสนุนวิธีอื่น”เท่ากับปัดว่านายวัฒนา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ นปช.
แถมโจมตีเจ้าหน้าที่ด้วยว่า “ส่วนรูปแบบการเชื่อมโยง การตั้งข้อกล่าวหา ตั้งข้อสงสัยก็ทำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำมา ไม่รู้จักเบื่อกันหรือ มันง่ายเหลือเกิน นาฬิกาใหม่ ผ้าแดงใหม่เอี่ยม อุปกรณ์ก็ใหม่ ทหารควรเอาตัวไปให้ตำรวจสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้กระทบกระเทือนต่อจิตใจคนไทย” ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนไทยกลุ่มไหน?????
เพราะนายวัฒนาได้ "รับสารภาพ" ไปแล้ว แถมยังบอกว่าไม่ได้ทำเพียง 3 ที่ เริ่มจากหน้ากองสลาก ถนนราชดำเนิน โรงละครแห่งชาติ และระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่นายวัฒนา กลับสารภาพเองว่า ได้ทำมาแล้วก่อนหน้านั้นอีก 3 ครั้ง
แถมนายวัฒนา ไม่ได้ปฏิเสธเลยว่า สิ่งของ หรือหลักฐานที่พบเหล่านั้น ไม่ได้เป็นของตัวเอง!!!! ที่ทำทั้งหมดเพราะไม่ชอบทหาร!!!
ถึงเวลานี้ควรยอมรับกันได้แล้วหรือไม่ว่าในหมู่คนเสื้อแดงนั้นมีแนวทางการต่อสู้แยกออกเป็น" 2 แนวทาง" ด้านหนึ่งก็อ้าง "สันติ" แต่อีกด้านหนึ่งก็ "รุนแรง"
มีคำถามที่น่าสนใจคือ นายวัฒนาไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน? ตอบได้เลยว่าเพราะมีองค์กรลับเป็นองค์กรจัดตั้งสร้างเป็นเครือข่ายกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยกลุ่มละ 5 ถึง 10 คน ทำการต่อสู้ด้วยความรุนแรงโดยมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนที่ยึดถือกันในกลุ่มนั้น ก็คือต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศนี้เป็น "สหพันธรัฐ"!!
โดยมีเอกสารที่ใช้ในการปลุกเร้าชี้นำชื่อว่า “สงครามอภิมหาอมตะยุทธ์ สงครามระหว่างเทวดา กับไพร่สารขัณฑ์” ขยายความว่าไพร่สู้นาย และสงครามชนชั้น ซึ่งเนื้อหาหนังสือคือการชี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วย "ความรุนแรง"
ก่อนหน้านี้ได้เคยมีการจับกุม "นายมหาหิน ขุนทอง" ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา ที่ยอมรับสารภาพว่าที่ทำเพราะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นสหพันธรัฐ เป็นอุดมการณ์ของกลุ่มตัวเองที่เรียกกันว่ากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ โดยในกลุ่มมีการศึกษาร่วมกันประมาณ 10 คน
ดังนั้นการที่แกนนำ นปช.บอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องการต่อสู้ด้วยความ"รุนแรง" ก็มีความเป็นไปได้!!!
แต่ควรจะ "ยอมรับ"ได้แล้วว่าในหมู่คนเสื้อแดงนั้นมีกลุ่มที่ต่อสู้ด้วย"ความรุนแรง"อยู่จริง ดังได้ปรากฏชัดตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุม หรือแม้แต่การประกาศยืนยันด้วยตัวเองอย่างของนายโกตี๋ เป็นต้น
คอลัมน์ : ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน / หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3272 ระหว่างวันที่ 22-24 มิ.ย.2560