เขตเศรษฐกิจคันไซ

19 มิ.ย. 2560 | 23:37 น.
TP11-3271-CC พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอีอีซี นำผลการศึกษาเขตเศรษฐกิจพิเศษยุทธศาสตร์คันไซ ของญี่ปุ่น มาปรับกับแผนงาน เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกัน และจะเป็นต้นแบบช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน มีความมั่นใจโครงการมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาคือ การประสานประโยชน์ร่วมกันกับชุมชนในพื้นที่ EEC ชุมชนจะได้อะไร? คุณภาพชีวิตของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร? การเร่งประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ ความเข้าใจกับภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างพลังร่วมที่เข้มแข็งในการพัฒนาพื้นที่ EEC ไปสู่การเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจชั้นนาของ ASIA ตามความมุ่งหวัง ที่จะพัฒนา EEC จากฐานเดิมที่มาจากการสร้าง ESB เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว มาสร้างความแข็งแกร่งในประเทศไทยให้เริ่มต้น เกิด ในปัจจุบัน

tp11-3271-b เขตเศรษฐกิจพิเศษยุทธศาสตร์คันไซ เป็น 1 ใน 12 พื้นที่เศรษฐกิจใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยกระจายความเจริญจากโตเกียวไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ และใช้เป็นเขตสาหรับทดลองการปฏิรูปกฎหมาย/กฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะนักลงทุนจากต่างชาติ เขตเศรษฐกิจพิเศษยุทธศาสตร์คันไซครอบคลุม 3 เขตสำคัญคือ โอซาก้า เกียวโต และเงียวโกะ โดยมีการก่อตั้งในปี 2557 ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีบทบาทเป็นศูนย์กลางทางการค้าของญี่ปุ่น และมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยทั้งถนนและทางด่วนพิเศษ ท่าเรือน้าลึก รถไฟและรถไฟความเร็วสูง เป็นที่ตั้งของสานักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนาของโลกซึ่งมีแบรนด์เป็นที่นิยม เช่น Panasonic, Kyocera, Nissin, Daikin, Omron

นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสำคัญ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยา และพลังงาน จุดเด่นที่สำคัญของเขตเศรษฐกิจพิเศษยุทธศาสตร์คันไซคือความก้าวล้ำทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง มีความพร้อมของสถาบันการวิจัย และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเพื่อรองรับนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ

โมเดลของเขตเศรษฐกิจพิเศษยุทธศาสตร์คันไซที่นำมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนอีอีซี คือการใช้กลไกการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐส่วนกลาง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน โดยเอกชนควรมีบทบาทสำคัญในการจัดทำข้อเสนอการพัฒนาที่เป็นความต้องการของภาคเอกชนอย่างมีเอกภาพ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,271 วันที่ 18 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560