เตือนช่วงหน้าฝนหลีกเลี่ยงลุยน้ำนานป้องกันโรคเมลิออยโดสิส

09 มิ.ย. 2560 | 05:30 น.
กรมควบคุมโรค  เผยโรคเมลิออยโดสิส ไม่ใช่โรคใหม่ เป็นโรคที่มีมานานแล้ว มักพบในช่วงหน้าฝน และโรคนี้พบในผู้ใหญ่มากกกว่าเด็ก โดยปีนี้พบผู้ป่วยกว่า 1.2 พันราย เสียชีวิตแล้ว 11 ราย ซึ่งผู้ป่วยครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 49.8) อยู่ในอาชีพเกษตร พร้อมเตือนสำหรับเกษตรกรหรือประชาชนกลุ่มเสี่ยง หากต้องลุยน้ำหรือย่ำโคลนให้ใส่รองเท้าบู๊ทยาวเพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

วันนี้ (9 มิถุนายน 2560) นายแพทย์เจษฎา  โชคดำรงสุข  อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นฤดูฝน หลายพื้นมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและบางแห่งอาจเกิดน้ำท่วมได้ ซึ่งในช่วงนี้โรคที่ประชาชนควรระมัดระวังอีกโรค คือ “โรคเมลิออยโดสิส” เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งอยู่ในดินและแหล่งน้ำนิ่ง ติดต่อทางบาดแผล ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป รวมถึงการหายใจเอาละอองอากาศที่มีเชื้อเข้าไป ที่สำคัญมักจะพบผู้ป่วยโรคนี้มากในช่วงหน้าฝน และพบในผู้ใหญ่มากกกว่าเด็ก ซึ่งในประเทศไทยจะพบผู้ป่วย 2000 - 3000 รายต่อปี

25-5-60-ผว.อัศวิน จุดน้ำเร่งระบาย  (22) สถานการณ์โรคเมลิออยโดสิส ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 4 มิ.ย. 2560 มีรายงานผู้ป่วย 1,216 ราย เสียชีวิต 11 ราย ผู้ป่วยร้อยละ 49.8 อยู่ในอาชีพเกษตร  กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากสุด ได้แก่ อายุ 45-54 ปี รองลงมาอายุ 55-64 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไป  ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะพบผู้ป่วยโรคเมลิออยโดสิสเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี  ส่วนในปี 2559 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยตลอดทั้งปี 3,108 ราย และเสียชีวิต 9 ราย โดยผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ (อายุ 35 ปีขึ้นไป) พบถึง 2,543 ราย คิดเป็นร้อยละ 82 ของผู้ป่วยทั้งหมด

นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า โรคเมลิออยโดสิส ไม่ใช่โรคใหม่ เป็นโรคที่มีมานานแล้ว ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการได้รับเชื้อ บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนติดเชื้อในกระแสเลือดและอาจเสียชีวิตได้ โดยอาการที่พบ คือมีไข้เป็นเวลานาน มีเนื้อตาย แผล ฝี หนองที่ปอด ตับ ม้าม หรือมีการติดเชื้อในกระแสเลือด    ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเรื้อรัง  วัณโรค  เบาหวาน  โรคไต โรคเลือด มะเร็ง และภาวะบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน เป็นต้น  ส่วนการป้องกันโรค มีดังนี้ หลีกเลี่ยงการลุยน้ำเป็นเวลานานโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ไม่สัมผัสกับดินและน้ำในพื้นที่ที่เกิดโรคประจำ หากมีแผลและสัมผัสดินหรือน้ำในบริเวณนั้น ต้องรีบทำความสะอาดทันที โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือใส่รองเท้าบู๊ทเมื่อจำเป็นต้องเดินลุยหรือย่ำน้ำเป็นเวลานาน ดื่มน้ำต้มสุก และหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ ที่สำคัญหากมีอาการไข้เกิน 5 วันหรือเกิดแผลอักเสบเรื้อรัง ควรจะรีบไปพบแพทย์ทันที  หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422