ซีพีเอ็น เป็นปลื้มยอดขายคอนโดฯต่างจังหวัดโตสวนกระแสตลาด เผยเตรียมรับรู้ปีรายได้ 61 ถึง 3,000 ล้าน พร้อมกางแผนปี 60 เร่งผุดโครงการใหม่มูลค่าร่วม 2,000 ล้าน แย้มเตรียมลุยตลาดแนวราบ
ร.อ.กรี เดชชัยกรรมการผู้จัดการ บริษัทซีพีเอ็น เรสซิเดนท์ จำกัดกล่าวว่า หลังจากที่เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม 3โครงการ ภายใต้แบรนด์“เอสเซ็นท์” ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่นมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาทเมื่อต้นปี 2559 ปัจจุบันปิดการขายทั้ง 3 โครงการแบบ 100%และคาดว่าจะสามารถส่งมอบห้องชุดให้กับลูกค้าทั้งหมดได้ในไตรมาส 1 ปี 2561 รวม 1,200หน่วย
โดยใช้กลยุทธ์การตลาดช่วยดึงความสนใจและกำลังซื้อเช่น รับคะแนน เดอะ วัน การ์ดเพิ่ม 3 เท่า เมื่อจอง ทำสัญญาและตลอดระยะเวลาผ่อนดาวนพื้นที่จอดรถวีไอพีในศูนย์การค้าของซีพีเอ็น เป็นต้น พร้อมกับวางเงินจองสูงถึง 20,000 บาทและให้จ่ายเงินดาวน์ที่อัตรา12.5% ของราคาซื้อขาย
จากการตอบรับที่ดีส่งผลให้ในปี 2560 บริษัทเตรียมเปิดคอนโดมิเนียมอีก 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.จังหวัดเชียงใหม่โครงการ 2 มูลค่า 80ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม8 ชั้น สไตล์รีสอร์ต อยู่บริเวด้านหลังห้างเซ็นทรัล เฟสติวัลห่างเพียง 100 เมตร ซึ่งจะเปิดขายไตรมาส 4
แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าตลาดคอนโดมิเนียมเชียงใหม่จะอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย แต่ก็เป็นเพียงบางพื้นที่เท่านั้น เช่นบริเวณนิมมานเหมินทร์ แต่เมื่อมาเปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมที่เป็นคู่แข่งของโครงการโดยตรงจริงๆ มีเหลือแค่ประมาณกว่า1,000 หน่วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเป็นกังวล ด้วยเพราะทำเลที่ตั้งโครงการของบริษัทมีความได้เปรียบจึงได้พัฒนาโครงการ 2 ต่อเนื่อง
สำหรับคอนโดมิเนียมใน2 จังหวัดที่เหลือคือ จังหวัดเชียงราย และนครราชสีมา โดยทีเชียงรายจะเป็นคอนโดมิเนียมในลักษณะเดียวกับที่เชียงใหม่มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาทเปิดช่วงไตรมาส 4 และที่จังหวัดนครราชสีมา ความสูง 22 ชั้นมูลค่าโครงการ 520 ล้านบาทเปิดตัวไตรมาส 3
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่รอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอีก 3 โครงการคาดว่าจะสามารถลงทุนได้ในปี 2561 อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับศูนย์การค้าหรือใกล้ศูนย์การค้า
“ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณศูนย์การค้ายังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคมีทั้งที่เป็นคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ที่ซื้อไว้เพื่ออยู่เองและเก็งกำไรเพื่อขายต่อในระยะยาว สำหรับปัจจัยที่ดึงดูดให้เกิดการตัดสินใจซื้อคือ ความแตกต่างและจุดแข็งที่ชัดเจนของตัวโครงการ การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในพื้นที่และทำเลยุทธศาสตร์ เช่นพื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่ ทำให้ได้ราคาสูง และเมื่อขายต่อราคาก็ไม่ตก”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560