ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลังกลุ่มโอเปกขยายเวลาลดกำลังการผลิต

30 พ.ค. 2560 | 01:53 น.
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลังมีการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2560

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตอบรับต่อข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตจากการประชุมของผู้ผลิตในและนอกกลุ่มโอเปก โดยราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มในวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังราคาร่วงค่อนข้างมากในสัปดาห์ที่แล้ว

- อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงมีความกังวลว่าการขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตในครั้งนี้อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาอยู่ในระดับสูงได้อีก ถึงแม้ว่าจะทำการลดกำลังการผลิตราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึงเดือน มี.ค 61 ก็ตาม เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ยังอยู่ในระดับสูงจากปริมาณการผลิตทางฝั่งสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 59 อยู่ที่ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 19 สัปดาห์ มาอยู่ที่ 722 แท่น

- Glodman Saches คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้น 785,000 บาร์เรลต่อวันระหว่างไตรมาสที่4 ปี59 จนถึงไตรมาสที่4 ปี60 โดยมาจากแหล่งขุดเจาะน้ำมัน Permian, Eagle Ford, Bakken และ Niobrara shale plays

-/+ นาย Greg McKenna หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดจาก futures brokerage AxiTrader ได้ให้ความเห็นว่า ยังต้องรอดูการปรับลดกำลังการผลิตในครั้งนี้ว่าจะทำให้ตลาดกลับสู่สมดุลได้หรือไม่จากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกที่ควรลดเท่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่งในภูมิภาค ประกอบกับปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซินในสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงกดดันจากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาค

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของอุปสงค์ที่ปรับตัวลดลงในภูมิภาคเอเชียและปริมาณสต็อกน้ำมันดีเซลในประเทศสิงคโปร์ที่ยังอยู่ในระดับสูง

oil0530-1 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ คงกำลังการกลั่นในอัตราที่สูงต่อเนื่องที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 93 เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. 2560 ปรับลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 516.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน

ปริมาณผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับจากเดือน เม.ย. 58 และส่งผลทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกว่าร้อยละ 10 จากช่วงกลางปีก่อนหน้าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่นมาอยู่ที่ 722 แท่น

ภาวะอุปทานโลกล้นตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนนับจากกำหนดการเดิมที่สิ้นสุด มิ.ย. 60 และคงปริมาณการปรับลดที่ราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียยังคงได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์