อาลีบาบา กรุ๊ป เผยผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2560 รายได้เติบโตขึ้น 60%กระแสเงินสดสะพัดราวหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เดินหน้าลงทุนคลาวด์คอมพิวติ้ง-สื่อดิจิตอลบันเทิง หลังเห็นอนาคตแรง
นายแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE:BABA) เปิดเผยว่ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง จึงทำให้บริษัทสามารถทำการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจคลาวด์ และธุรกิจสื่อดิจติ อลและความบันเทงิ และจะนำไปสู่การพลิกโฉมเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิตอล และการยกระดับประสบการณข์ องผูบ้ ริโภคทั่วทั้งประเทศจีน โดยผลประกอบการที่เติบโต ทั้งในไตรมาสสุดท้ายและตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา เป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จในการเข้าถึงและสร้างรายได้จากผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มต่างๆของบริษัท
ด้านนายแมกกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวเสริมว่าไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมาบริษัทยังคงมีผลประกอบการแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงถึง 60% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่รายได้ตลอดปีงบประมาณนี้เติบโตขึ้น56 % และมีกระแสเงินสดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปอยู่ราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักของเรารวมถึงแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เช่นในด้านของคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่เรามองเห็นทิศทางการเติบโตได้อย่างชัดเจน ในฐานะผู้นำตลาด”
สำหรับผลประกอบการประจำปีงบประมาณ สิ้นสุดวันที่31 มีนาคม 2560 นั้นบริษัทมีรายได้รวม 158,273 ล้านหยวน (22,994 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ขณะที่รายได้หลักจากธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่งเติบโตขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 133,880 ล้านหยวน(19,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)และรายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 121% จากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 6,663 ล้านหยวน (968ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ส่วนรายได้จากธุรกิจสื่อดิจิตอลและบันเทิงเติบโตขึ้น271% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนรวมเป็นรายได้ทั้งหมด 14,733ล้านหยวน (2,141 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และรายได้จากกลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรมเพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 2,997 ล้านหยวน(435 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ทั้งนี้ช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาในประเทศจีน มีลูกค้าที่ซื้อสินค้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปีรวมกว่า 454 ล้านราย เพิ่มขึ้น 31 ล้านรายเมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า (สิ้นสุดวันที่31 มนี าคม 2559) โดยในจำนวนดังกล่าวคิดเป็นผู้บริโภคที่ใช้งานช่องทางอาลีเอ็กซ์เพรสและลาซาด้ารวม 83 ล้านราย ส่วนยอดผู้ใช้งานในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกในแต่ละเดือนผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 507ล้านคนในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 97 ล้านคน ขณะที่ยอดขายรวมผ่านทางช่องทางค้าปลีกในประเทศจีนตลอดปีงบประมาณ 2560 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.767ล้านล้านหยวน (547,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยเติบโตขึ้น22% เมื่อเทียบกับยอดขายรวมทั้งหมด 3.092 ล้านล้านหยวนในปีการเงินสิ้นสุด 2560
ทั้งนี้อาลีบาบาได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการอี-คอมเมิร์ซผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุดังกล่าวยอดขายรวมผ่านโทรศัพท์มือถือของช่องทางค้าปลีกในประเทศจีนในปีงบประมาณนี้จึงสูงถึง 2.981ล้านล้านหยวน (433,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือคิดเป็น79% ของยอดขายรวมทั้งหมดโดยเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันในปีก่อน ส่วนรายได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือจากธุรกิจค้าปลีกในประเทศจีนสูงกว่า 90,731 ล้านหยวน (13,182 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือเพิ่มขึ้น 80%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปีงบประมาณล่าสุดนี้รายได้จากแพลตฟอร์มซื้อขายบนโทรศัพท์มือถือได้เติบโตแซงหน้ารายได้ผ่านช่องทางคอมพิวเตอร์ไปแล้ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,264 วันที่ 25 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560