คาดประมูล‘อู่ตะเภา’คึก รออนุมัติพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ-เอกชนลั่นพร้อมชิง

22 พ.ค. 2560 | 03:00 น.
เอกชนจ่อประมูล 3 สัญญาพื้นที่เชิงพาณิชย์อาคารผู้โดยสาร 2 สนามบินอู่ตะเภา เผยขั้นตอนล่าสุดอยู่ระหว่างดำเนินการตามพ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ ประเภทโครงการมูลค่าตํ่ากว่า 1 พันล้านบาท ชี้หลังรมว.กลาโหมอนุมัติ พร้อมประกาศประกวดราคาทันที

การเปิดสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 ของสนามบินอู่ตะเภา เพื่อรองรับผู้โดยสารราว 3-5 ล้านคนต่อปี ที่จะเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ได้ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งสนามบินมีแผนจะเปิดประมูลใน 3 สัญญาได้แก่ 1.สัญญาร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) 2.สัญญาการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ และ 3.สัญญาการพื้นที่ป้ายโฆษณาต่างๆเฉพาะตัวอาคารโดยขณะนี้โครงการดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2535 ฉบับปรับปรุงตามกฏกระทรวงปี 2556

ส่งผลให้ผู้ประกอบการใน 3 ธุรกิจนี้ที่แสดงความสนใจมาตั้งแต่แรกทั้งๆที่ยังไม่ได้เปิดประมูล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเซ็นทรัล ,กลุ่มเดอะมอลล์ ,คิงเพาเวอร์,กลุ่มลอตเต้ ของเกาหลีใต้, หรือแม้แต่ผู้ดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรี ในอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน อย่าง บริษัทมอร์แดนฟรี จำกัด เป็นต้น ยังคงต้องรอให้ขั้นตอนตามพ.ร.บ.ดังกล่าวแล้วเสร็จก่อน ทางสนามบินอู่ตะเภา จึงจะประกาศเปิดให้ประกวดราคาได้

พล.ร.ต.วรพล ทองปรีชา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าการเปิดสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ราว 2 พันตารางเมตรใน 3 สัญญาดังกล่าว อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนพ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ที่ประกาศเพิ่มเติมใหม่ ซึ่งใน 3 สัญญาของสนามบินอู่ตะเภา เข้าข่ายประเภทโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งรอเพียงการอนุมัติจากรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดเท่านั้น ไม่ต้องนำเรื่องเสนอครม.หรือคณะกรรมการฯเหมือนประเภทโครงการที่มีมูลค่าระหว่าง 1 -5 พันล้านบาท หรือ โครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5 พันล้านบาทขึ้นไป

“ขณะนี้สนามบินอู่ตะเภา ได้ส่งโครงการนี้ เสนอไปยังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเมื่อได้รับการอนุมัติ ทางสนามบิน ก็จะดำเนินการประกาศประกวดราคา โดยให้เวลาเอกชน 1 เดือนในการเสนอแผนและออกแบบ ประเมินราคา และเสนอผลประโยชน์ตอบแทนซึ่งสนามบิน จะเปิดกว้างให้ทั้งบริษัทของไทยและต่างชาติ มีสิทธิเสนอตัวได้ เพียงแต่จะกำหนดว่าผู้มีคุณสมบัติยื่นประกวดราคา จะต้องเป็นนิติบุคคลไทย ซึ่งหากเป็นบริษัทของต่างชาติ ก็ต้องไปร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการไทย”

พล.ร.ต.วรพล ยังกล่าวต่อว่า อีกทั้งภายในอาคารผู้โดยสารดังกล่าว ยังจะมีการกันพื้นที่ในส่วนที่จะเป็น Common Use สำหรับการใช้งานร่วมกัน เช่น จุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรี (Pick Up Counter) ซึ่งสนามบินอู่ตะเภา จะเปิดให้ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีทุกราย มีสิทธิที่จะใช้พื้นที่นี้ ในการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางมาใช้บริการสนามบิน แม้ว่าธุรกิจจะแพ้ประมูลการเปิดดิวตี้ฟรีภายในสนามบิน เนื่องจากจุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรี ไม่ได้รวมอยู่ในสัญญาร้านค้าปลอดอากร ที่เปิดสัมปทานให้เอกชนมาดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรีภายในสนามบิน

สำหรับการขยายตัวของผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา มีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้คาดว่าสนามบินจะมีผู้โดยสารใช้บริการราว 1.1-1.2 ล้านคน เพิ่มจากปี2559 มีผู้โดยสารใช้บริการราว 7 แสนคน เที่ยวบินกว่า 8 พันเที่ยว เพิ่มจากปี2558 มีผู้โดยสารใช้บริการราว 1.7 แสนคน และปี2557 ราว 1.5 แสนคน

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทคิงเพาเวอร์ฯ กล่าวว่าคิงเพาเวอร์ พร้อมจะยื่นประกวดในโครงการดิวตี้ฟรีและการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ สนามบินอู่ตะเภา เมื่อสนามบินมีการเปิดประมูล ซึ่งแม้พื้นที่จะมีขนาดไม่มากนัก หากเทียบกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินอื่นๆ แต่ก็เป็นการขยายสาขาดิวตี้ฟรี ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของคิงเพาเวอร์ทั้งยังมองเห็นการเติบโตของผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินอู่ตะเภาเพิ่มขึ้น ทั้งจากสายการบินเช่าเหมาลำต่างๆ รวมถึงผู้โดยสารของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียก็ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฮับบินในการบินไปยังหลากเมืองในประเทศและต่างประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560