ลาซาด้า ประกาศชัดลงทุนในอีอีซี ตั้ง”อี-คอมเมิร์ซ ปาร์ค” คาดเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2562 หวังใช้ไทยเป็นประตูสู่ซีแอลเอ็มวี สร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทอาลีบาบา
บริษัท ลาซาด้า (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศความพร้อมเข้าลงทุนโครงการอี-คอมเมิร์ซ ปาร์ค ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี เป็นที่แน่นอนแล้ว
เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมาผู้บริหาร ลาซาด้า ได้มีการหารือกับอธิบดีกรมศุลกากร ถึงความพร้อมของระบบในการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปแล้ว ที่เบื้องต้นจะใช้โครงข่ายของระบบในสนามบินสุวรรณภูมิที่มีอยู่แล้วในการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปก่อน และหลังจากนั้นจะย้ายไปสนามบินอู่ตะเภาเมื่อมีการพัฒนาเต็มรูปแบบแล้ว
นายอเล็กแซนดรอบิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัทลาซาด้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าลาซาด้า ประเทศไทย บริษัทในกลุ่มอาลีบาบา กรุ๊ป ที่ดำเนินธุรกิจในไทยและมีการเติบโตมาต่อเนื่อง เมื่อรัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนอีอีซี ทางบริษัทจึงให้ความสำคัญที่จะเข้าไปลงทุน
โดยได้ประกาศแผนการก่อตั้งโปรเจ็กต์อี-คอมเมิร์ซ ปาร์ค ในเขตพื้นที่อีอีซี ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกพื้นที่ใน จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรีอยู่ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2562 โดยโปรเจ็กต์อี-คอมเมิร์ซ ปาร์ค จะเป็นประตูเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ที่เปิดสู่ตลาดนานาประเทศ ทั้งยังอำนวยความสะดวกเชื่อมต่อด้านการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
“ โครงการอีคอมเมิร์ซ ปาร์ค จะนำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศอี-คอมเมิร์ซหรืออีโคซิสเต็มที่ดีที่สุดของไทย ซึ่งจะเป็นระบบนิเวศฯชั้นนำในภูมิภาค โดยจะเป็นจุดนัดพบของเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางโลจิสติกส์ เป็นศูนย์รวมที่นำโครงสร้างทางโลจิสติกส์และเทคโนโลยีขั้นสูงมาไว้ในที่เดียวกันในเขตอีอีซีเพื่อให้บริการอย่างครบวงจร”
ทั้งนี้ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเขตอีอีซีของลาซาด้าในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำจุดยืนและเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบทบาทลาซาด้าและอาลีบาบาในไทย ทั้งยังช่วยบ่มเพาะและเตรียมความพร้อมให้กับนักธุรกิจยุคใหม่ที่รวมถึงกลุ่มสตาร์ตอัพและกลุ่มเอสเอ็มอี ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจบนโลกอินเตอร์เน็ต เพื่อตอบรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0
“ตลาดอี-คอมเมิร์ซมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมาตลอดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ลาซาด้าได้เข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย ซึ่งลาซาด้ามีความมุ่งมั่นในการให้ความสนับสนุนเพื่อพัฒนาเขตพื้นที่อีอีซี และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญให้อี-คอมเมิร์ซไทยเติบโตแบบยั่งยืน โดยคาดการณ์มูลค่าของตลาดว่าจะสูงถึง 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ180,200 ล้านบาท ภายในปี 2564”
สำหรับระยะยาว ลาซาด้ามีวิสัยทัศน์สร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและแบรนด์สินค้าไทยให้ก้าวสู่โลกอี-คอมเมิร์ซ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทางลาซาล้าได้แจ้งมายังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วที่พร้อมจะลงทุนอี-คอมเมิร์ซ ปาร์คและได้มีการหารือกับกรมศุลกากรในการอำนวยความสะดวกการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปแล้ว ทำให้ลาซาด้านมีความมั่นใจในระบบ และแสดงจุดยืนที่จะลงทุนในไทย ซึ่งโครงการอี-คอมเมิร์ซ ปาร์ค ไม่เพียงจะมีกิจกรรมอีคอมเมิร์ซเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศที่ต่อเนื่อง ไม่ว่าการผลิต ระบบโลจิสติกส์ และยังเป็นแหล่งบ่มเพาะเอสเอ็มอี รวมถึงสตาร์ตอัพที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ ให้สามารถเข้าถึงอี-คอมเมิร์ซได้ด้วย
ส่วนเม็ดเงินที่จะลงทุนนั้น ทางลาซาด้า ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดหาพื้นที่อยู่ แต่ยืนยันได้ว่าจะเป็นในอีอีซีแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้มีการหารือกันไปแล้วว่า ในช่วงแรกที่สนามบินอู่ตะเภาอยู่ระหว่างการพัฒนา การนำเข้าส่งออกสินค้าก็ให้ใช้ระบบของกรมศุลกากรที่มีอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิไปก่อน และเมื่ออู่ตะเภาพัฒนาเต็มรูปแบบแล้วค่อยให้ย้ายมาแทนได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,255 วันที่ 23 - 26 เมษายน พ.ศ. 2560