ลงทุนสั้นรอดอกเบี้ยขึ้น ประกันปรับพอร์ตวุ่นตั้งเป้าตรึงยีลด์ 4-5%

22 เม.ย. 2560 | 05:00 น.
ธุรกิจประกันเน้นบริหารพอร์ตการลงทุนระยะสั้น รอชัดเจนดอกเบี้ยขาขึ้น“ไทยประกันชีวิต”ชี้ดอกเบี้ยขึ้นแต่ไม่เร็วและแรงเหมือนอดีต เน้นบริหารแบบระมัดระวังคาดผลตอบแทนปีนี้ 4-4.5% ส่วน “เอไลฟ์”ทยอยปรับพอร์ตลงทุนพันธบัตรระยะสั้นคาดยีลด์ทั้งปี 5% ดันยอด 5 พันล้านบาท

นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นถือเป็นช่วงที่บริษัทประกันชีวิตจะได้ประโยชน์ โดยเฉพาะส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยระยะยาวและอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามบริษัทค่อนข้างกังวลกับทิศทางของดอกเบี้ยในช่วงนี้ เพราะแม้อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่เป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในแต่ละประเทศอาจจะเคลื่อนไหวแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและสภาพคล่องของประเทศนั้นๆ ซึ่งตลาดส่วนมากเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวดอกเบี้ยไทยกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามเฟด เนื่องจากขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน แต่การเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะทรงตัว และยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจกระทบภาวะเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตามจากสภาพคล่องที่มีอยู่มากในระบบเศรษฐกิจไทย บริษัทเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น แตกต่างจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบก่อนๆ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทจึงยังไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากจากปีที่แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย โดยพยายามลด Duration Gap ลง ซึ่งบริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และติดตามการเปลี่ยนแปลงของทิศทางดอกเบี้ยและภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด

สำหรับสัดส่วนการลงทุนของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐประมาณ 40-50% ตราสารหนี้ภาคเอกชนประมาณ 35-45% และตราสารทุน ทั้งหุ้น กองทุน และกองทรัสต์ สัดส่วน10-15% โดยคาดว่าผลตอบแทน (Yield) จากการลงทุนในปีนี้น่าจะเฉลี่ยอยู่ในในกรอบ 4-4.5%

"ภาพรวมการบริหารการลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลายบริษัทยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นเร็วและแรงเหมือนในอดีต และถึงแม้จะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต เรายังคงต้องเน้นกระจายการลงทุน และมองหาโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงที่ประสบภาวะดอกเบี้ยต่ำ หลายๆ บริษัทได้พยายามศึกษาและทดลองการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งเชื่อว่าพัฒนาการเหล่านี้คงไม่หยุดลง ยังคงเห็นบริษัทประกันชีวิตลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือกระจายการลงทุนในหุ้นและกองทุนต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน”

นายสมศักดิ์ ไชยเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทแอ๊ดวานซ์ไลฟ์ ประกันชีวิตฯ หรือ เอไลฟ์ กล่าวว่า ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ยังคงมีความไม่ชัดเจนว่าธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงไหน ซึ่งหลายแห่งคาดว่าจะขึ้นสิ้นปีนี้ แต่ธุรกิจประกันได้มีการปรับตัวการบริหารพอร์ตการลงทุนรองรับไว้แล้ว เนื่องจากธุรกิจประกันค่อนข้างจะได้รับผลกระทบหากอัตราดอกเบี้ยมีการเคลื่อนไหว ดังนั้น จะเห็นธุรกิจประกันเริ่มปรับตัวในการบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย

เอไลฟ์มีการทยอยปรับพอร์ตการลงทุนมาตั้งแต่ปลายปีก่อนหลังตลาดส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น โดยบริษัทหันไปถือตราสารหนี้ระยะสั้น 1-2 ปีเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับความเสียหายเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น เพราะหากดอกเบี้ยปรับขึ้นจะทำให้ตราสารหนี้ระยะยาวราคาอาจจะปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุนได้ ทำให้บริษัทจึงปรับพอร์ตการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นรอดูสถานการณ์ไว้ก่อน

อย่างไรก็ตามสัญญาณการปรับดอกเบี้ยขึ้นยังคงมีความไม่ชัดเจน ทำให้สัดส่วนพอร์ตการลงทุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยบริษัทจะถือตราสารหนี้ระยะสั้นประมาณ 80-90% และที่เหลืออีก 10% จะถือหน่วยลงทุนและตราสารทุนหรือหุ้น 10% ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ประกันและหนี้ระยะยาวของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุน ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ 4,700 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 2560 พอร์ตการลงทุนจะเพิ่มเป็นกว่า 5,000 ล้านบาท และมีผลตอบแทนจากการลงทุนบวกลบอยู่ที่ 5% ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 5.9% แต่ถือว่าเหมาะสมกับสภาวะตลาดโดยรวม

[caption id="attachment_142036" align="aligncenter" width="472"] ลงทุนสั้นรอดอกเบี้ยขึ้น ประกันปรับพอร์ตวุ่นตั้งเป้าตรึงยีลด์ 4-5% ลงทุนสั้นรอดอกเบี้ยขึ้น ประกันปรับพอร์ตวุ่นตั้งเป้าตรึงยีลด์ 4-5%[/caption]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,254 วันที่ 20 - 22 เมษายน พ.ศ. 2560