MAKING IT IN AMERICA (2)

20 เม.ย. 2560 | 13:00 น.
ตอนแรกได้เกริ่นถึงประธานาธิบดี DONALD TRUMP ผู้หาเสียงระหว่างการรณรงค์การเลือกตั้ง PRESIDENT OF U.S.A. ปีที่แล้วว่า จะทำให้ AMERICA GREATAGAIN

จะสร้างงานให้เกิดขึ้นในประเทศ และเดือนที่แล้วได้รุกคืบมาว่าจะจัดการกับประเทศคู่ค้าของสหรัฐที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐมหาศาล ตั้งแต่จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี เม็กซิโก ไปจนถึงประเทศไทยที่ได้เปรียบอันดับท้ายๆ ของ 16 ประเทศ
PRESIDENT TRUMP ใช้คำดิบๆ เรียกประเทศเหล่านี้ว่า CHEATERS ซึ่งฟังดูน่าเกลียด

แต่จริงๆ คำนี้นักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม เจ้าของโรงงานในสหรัฐอเมริกา ใช้เรียกเจ้าของโรงงาน เจ้าของธุรกิจในต่างแดนที่ส่งสินค้า DUMP เข้าตลาดสหรัฐมานานแล้ว

CHEATERS คือ โรงงานต่างแดน ที่มีต้นทุนการผลิตแสนถูก โดยกดขี่ค่าแรงพนักงาน โดยการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากรัฐ โดยการที่ประเทศกดค่าเงินให้อ่อน ฯลฯ

จีนเป็น CHEATER เต็มๆ ในสายตาของนักอุตสาหกรรมสหรัฐ ที่ต้องปิดโรงงาน เลิกกิจการ ไม่ก็ต้องย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่ 3

คนที่เคยออกมาบริภาษโรงงานและรัฐบาลจีนอย่างรุนแรง จนกลายเป็น HERO ของอเมริกันชนก่อนประธานาธิบดี DONALD TRUMP

คือ JOHN BASSETT III เจ้าของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เครื่องนอนไม้ใน BRAND : BASSETT
JOHN D BASSETT ที่ 3 ไม่เพียงแต่บ่นหรือด่าประเทศจีน โรงงานจีนว่าเป็น CHEATERS แต่ได้หา "ทาง" ให้ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแก่ ผลิต PREMIUM PRODUCTS อยู่ได้ใน "บ้าน" สหรัฐ ขณะที่กระแส GLOBALISATION โหมกระหน่ำ เฟอร์นิเจอร์ราคาถูกฟ จำนวน MASS VOLUME โถมตลาดเต็มไปหมด

JOHN ปลุกปลอบพนักงานให้ความเชื่อมั่นว่า ตนจะไม่หาทางออกให้ธุรกิจของตนอยู่รอดอย่างง่ายๆ ด้วยการจ้างให้จีนหรือเวียดนามผลิตเฟอร์นิเจอร์ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า เปลี่ยนการผลิตเป็น "การนำเข้า" ทำกำไร

JOHN สร้างกระแส BUY AMERICAN ในชุมชน ในเมือง และขยายไปทั่วประเทศ

ถ้าคุณมีกำลังจะซื้อสินค้าอเมริกัน (ที่ราคาแพง) ได้โปรดซื้อ เพื่อให้ "งาน" ได้อยู่ในประเทศ เพื่อให้คนรุ่นต่อไปได้รับโอกาสเหมือนคนรุ่นปู่ รุ่นพ่อ

ที่สำคัญ ถ้าคุณ "ซื้อ" ไม่ได้ อย่างน้อยช่วย "ถาม" เมื่อเข้าไปในร้านค้า

ถาม "คุณมีอะไรในร้านที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาบ้าง"

อย่างน้อยถึงคุณไม่มีปัญญา ไม่มีกำลัง (ทรัพย์) จะซื้อ "MADE IN U.S.A." PRODUCTS

คุณน่าจะมีแรงถาม

ขอแรงหน่อยเถอะ ถ้าเราทุกคนช่วยกันถาม ร้านค้าต้อง "ได้ยิน" บ้าง และ BUYERS ต้องเป็นธุระในการหา AMERICAN-MADE PRODUCTS ไว้ใน STOCK

ผมเคยเดินเข้าร้าน ถามหา MADE IN U.S.A. PRODUCTS เมื่อหลายปีก่อน (ตามธรรมเนียมของคนไทยที่เห่ออเมริกัน) คำตอบน่าเศร้า คือ คนขาย (ที่เป็นฝรั่งแท้ๆ) หยิบของ MADE IN CHINA , MADE IN VIETNAM มาให้และบอกว่า ผลิตภัณฑ์พวกนี้ดีกว่าของที่ทำใน U.S.A.

[caption id="attachment_141849" align="aligncenter" width="375"] MAKING IT IN AMERICA (2) MAKING IT IN AMERICA (2)[/caption]

รถยนต์ยี่ห้อสหรัฐฯเองก็คงทำความผิดหวังให้กับผู้บริโภคอุปโภคชาวอเมริกัน ก่อนที่เขาจะหันไปอุดหนุนรถญี่ปุ่น ปัญหาเดียวกันนี้เกิดในยุโรปเช่นกัน แต่ว่ากันว่า คนยุโรปมีจิตใจรักชาติและเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าคนอเมริกัน เขารู้ว่าถ้าขาไม่ซื้อรถยุโรป นานเข้าเพื่อนเขาคงตกงาน สังคมส่วนรวมจะได้รับผลกระทบ จริงๆ JOHN D BASSETT ไม่ได้หยุดแค่ในโรงงาน ชุมชน สังคม เขาได้เดินหน้าขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ (ซึ่งไม่ง่ายเลย) ให้ออก "มาตรการ" มาช่วยเหลือ กีดกันสินค้าราคาถูกจากประเทศต้นทุนต่ำ รัฐบาลช่วย ฯลฯ

ที่ว่าไม่ง่ายคือ ในประเทศเสรีอย่าง U.S.A. สมาคมคุ้มครองผู้บริโภคของเขาก็มีพลังพอสมควร

หากกีดกันสินค้าราคาถูกเข้าประเทศ ผู้บริโภคอเมริกันชนต้องใช้สินค้าราคาแพง จะยุติธรรมกับประชาชนหรือ
ด้วยความพยายามของ JOHN D BASSETT ที่ 3 ที่ใช้ทั้งนักกฎหมาย นักการเมืองเดินสายอธิบาย/LOBBY รัฐบาลสหรัฐได้ออก "เครื่องมือ" ออกมาปกป้องอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของประเทศตนด้วยมาตรการ ANTI DUMPING TAX (มาตรการนี้อุตสาหกรรมไทยหลายตัวโดนมาแล้ว อย่างเช่น อุตสาหกรรมผลิตสับปะรดกระป๋อง ที่มีโรงงานของสหรัฐโรงเดียวที่เหลืออยู่ (ใน HAWAII) ฟ้องว่าประเทศไทย DUMP สินค้าเข้าสหรัฐโดยขายเข้าอเมริกาถูกกว่าขายในประเทศไทย โรงงานสับปะรดกระป๋องของไทยจะโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าหนักตั้งแต่ 20-120% ขึ้นอยู่กับการตอบแบบสอบถาม ความร่วมมือในการให้เขาตรวจสอบต้นทุน ฯลฯ)

ในอนาคต อุตสาหกรรมไทยหลายตัวคงโดนมาตรการ ANTI DUMPING นี้แน่นอน

อย่างได้ไป UNDERESTIMATE PRESIDENT TRUMP เด็ดขาด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,254 วันที่ 20 - 22 เมษายน พ.ศ. 2560