แบงก์หั่นค่าธรรมเนียมรูดบัตรเดบิตผ่านอีดีซีทั้งระบบเหลือ 0.55% จากเดิมอยู่ที่ 1.5-2.5% จูงใจร้านค้า-ผู้บริโภคใช้บัตรเดบิตในประเทศซื้อสินค้า-บริการ “ไทยพาณิชย์”คาดไตรมาสแรกปีหน้าเพดานค่าต๋งเท่ากันหมด
ธนาคารพาณิชย์สนองนโยบายสังคมไร้เงินสด National e-Payment ทยอยหั่นค่าธรรมเนียมการรูดบัตรเดบิตให้แก่ร้านค้าเก่าและใหม่ที่ติดตั้งเครื่องอีดีซีในอัตราเดียวกันคือ 0.55% ลดลงจากเดิม 1.5-2.5% ส่วนบัตรเครดิตไม่ลด เพราะยังมีต้นทุนที่ธนาคารจะต้องจ่ายให้กับระบบการชำระเงินของต่างประเทศ อาทิ วีซ่าและ มาสเตอร์ เป็นต้น
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้ธนาคารได้ส่งหนังสือถึงลูกค้าเดิมที่ติดตั้งเครื่องรับบัตร(อีดีซี)ของธนาคารกสิกรไทยเพื่อปรับลดค่าธรรมเนียมส่วนลดร้านค้า (Merchant Discount Rate: MDR) จาก 1.5-2.5% ให้ลงมาอยู่ที่เพดาน 0.55%เท่ากับร้านค้าที่ติดตั้งใหม่เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการแข่งขัน
“ธนาคารทยอยลดอัตรา MDR ให้ร้านค้าเก่าแล้ว2 แสนเครื่อง หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 37% อัตราที่ลดลงเหลือ 0.55% จะให้เฉพาะยอดที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตภายในประเทศเท่านั้นไม่รวมการใช้จ่ายในต่างประเทศ เพราะธนาคารมีต้นทุนให้กับเครือข่ายระบบชำระเงินให้กับต่างประเทศแต่บางรายอาจจะได้น้อยกว่าขึ้นอยู่กับปริมาณธุรกรรมด้วย”
สำหรับลูกค้ารายใหม่ที่จะมีการติดตั้งตามรายชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาครัฐจำนวน 5.5 แสนจุดนั้น ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างติดต่อลูกค้าตามรายชื่อคาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้จะเข้าพบลูกค้าได้ประมาณ 1.5 แสนจุด โดยธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพรวมกัน ต้องติดตั้งให้ได้25% หรือประมาณ 1.35 แสนจุด ส่วนของธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้า 1 แสนจุดจากยอด 5.5 แสนเครื่อง
ขณะที่แนวโน้มธุรกรรมบริการโอนเงินรับเงินรูปแบบใหม่ (PromptPay) ปัจจุบันมีรายการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ของธนาคารมีปริมาณเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมมาอยู่ที่ 2.35 หมื่นรายการต่อวัน จากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 1 หมื่นรายการต่อวันเติบโต 130% โดยประมาณ 80% เป็นรายการโอนข้ามธนาคาร
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์ ธนาคารจึงออกแคมเปญ “พร้อมเพย์ K สุด มั่นใจ ใครๆก็เพย์” โดยคาดว่าจะเพิ่มยอดผู้บัญชีพร้อมเพย์จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 ล้านรหัส เป็น 5 ล้านรหัสภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอีก 45-60% รวมถึงเพิ่มปริมาณธุรกรรมเป็น 2 แสนรายการต่อวัน
นายอารักษ์ สุธีวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ Chief Strategy Officerธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารได้แจ้งไปยังลูกค้าเดิมที่ติดตั้งอีดีซีถึงการลดอัตรา MDR มาอยู่ที่ 0.55% และได้ทยอยลดราคาไปบ้างแล้ว ทั้งนี้การปรับลดราคาเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน
“เชื่อว่าทุกธนาคารพยายามปรับราคา MDR ให้ลงมาอยู่ที่ 0.55% รวมถึงปรับโมเดลเครื่องรับบัตร ให้สามารถรองรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในประเทศ และการปรับสัญญาของลูกค้ารายเดิมให้มาอยู่ในกรอบราคาเดียวกัน โดยคาดว่าจะครบ 100% ภายในกำหนดไตรมาสที่ 1 ของปี 2561”
สำหรับความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องอีดีซีตามนโยบายภาครัฐ 5.5 แสนจุด จะเห็นว่ามีลูกค้าที่ให้ความสนใจติดตั้ง และมีกลุ่มที่ยังลังเลอยู่ระหว่างตัดสินใจ รวมถึงกลุ่มที่ยังมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องติดตั้ง เนื่องจากไม่ได้มีธุรกรรมที่จะต้องทำผ่านเครื่อง แต่เชื่อว่าทุกธนาคารมีความตื่นตัวที่จะเข้าไปหาลูกค้าของตัวเอง โดยในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์คาดว่าจะติดตั้งสัดส่วนประมาณ 20-25%
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อยธนาคารธนชาต กล่าวว่า กลางเดือนที่ผ่านมาธนาคารส่งหนังสือไปยังลูกค้าที่ติดตั้งเครื่องอีดีซีของธนาคารที่มีกว่า 1 หมื่นเครื่อง เพื่อแจ้งการลดอัตรา MDR ลงมาอยู่ที่ 0.55% ของการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตตามนโยบายภาครัฐ ซึ่งได้เริ่มทยอยลดมาอยู่ในอัตราดังกล่าวแล้วบางส่วน แต่คาดว่าจะลดให้ครบได้ทุกจุด
ส่วนร้านค้าที่จะติดตั้งเครื่องอีดีซีใหม่นั้น ธนาคารคาดว่าจะเข้าไปสำรวจและติดตั้งเครื่องได้ตามจำนวนที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนของมาร์เก็ตแชร์ที่มีอยู่ 4% หรือตามขนาดของธนาคาร ส่วนจะมีการปรับลดให้ต่ำกว่า 0.55%ยังไม่ลด แต่ธนาคารจะเน้นเสนอเป็นแพ็กเกจโซลูชันให้ลูกค้าแทน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,247 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2560