มิตซูบิชิฯบุกลิฟต์-บันไดเลื่อน เผยตลาดโต7%จากเมกะโปรเจ็กต์คมนาคม

23 มี.ค. 2560 | 14:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

มิตซูบิชิ ชี้ตลาดลิฟต์และบันไดเลื่อนปีนี้โต 7% มาจากความเชื่อมั่นการเร่งลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์คมนาคมขนส่งของรัฐบาล เดินหน้าบุกลิฟต์บ้าน หลังพบตลาดโตก้าวกระโดด

นายสันติพงษ์ บูรณกฤตยากรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดลิฟต์และบันไดเลื่อนโดยมีส่วนแบ่งการตลาด 30% หรือยอดขายประมาณ 1,800 ตัว จากตลาดรวมมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 7% เท่ากับการเติบโตของตลาดในภาพรวม จริงแล้วปีที่ผ่านยอดขายของบริษัทควรจะถึง 1,800 ตัว แต่เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม ได้ตลาดต่างจังหวัดมาทดแทน ประกอบกับมีเซ็กเมนต์ใหม่ๆเข้ามา ทำให้ตลาดของมิตซูบิชิยังมีการเติบโต สามารถจำหน่ายลิฟต์และบันไดเลื่อน มากกว่า 1,700 เครื่อง

ตลาดลิฟต์และบันไดเลื่อนมีการขยายตัวในช่วงปลายปี หลังจากรัฐบาลมีความชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ทั้งระบบรถไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน โครงการอาคารผู้โดยสารอาคารที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ มีความเชื่อมั่นมากขึ้น พร้อมเดินหน้าโครงการต่างๆ กระจายไปยังปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ๆ ยังได้จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์มากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ลิฟต์และบันไดเลื่อน มิตซูบิชิ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ทำให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ โครงการใหญ่ที่เลือกใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนมิตซูบิชิ อาทิ โครงการมหานคร, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง, ศูนย์การค้า Terminal 21, สนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการระดับลักชัวรีอีกหลายโครงการ

สำหรับปี2560 นี้ คาดว่าตลาดลิฟต์และบันไดเลื่อนยังคงเติบโต ระหว่าง 5-7% ในส่วนของที่อยู่อาศัย ที่ผู้บริโภคคำนึงถึงความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากกว่าราคา สัดส่วนความต้องการในกรุงเทพฯเทียบกับต่างจังหวัดประมาณ 50:50โดยสัดส่วนในกรุงเทพฯเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน

นายสันติพงษ์ กล่าวถึงตลาดลิฟท์บ้าน เซกเมนท์ใหม่ที่มาแรงในปีที่ผ่านมาว่า ปัจจัยการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุภายในประเทศมีผลผลักดันปริมาณความต้องการตลาดลิฟต์โดยรวม จะอยู่ที่ประมาณ 5,500 ตัว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯที่พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรอันดับต้นๆของธุรกิจ ก็มีการออกแบบให้มีลิฟต์ในบ้านรุ่นใหม่ๆ ในระดับราคาหลังละ 40 ล้านบาทขึ้นไป เป็นจุดขายใหม่ จากสมัยก่อนซื้อบ้านแถมแอร์ หรือรถยนต์ ปัจจุบันหันมาแถมลิฟต์ในบ้านแทนซึ่งราคาประมาณ 1.1 ล้านบาท แนวโน้มตลาดลิฟต์บ้านจะเติบโตอีกมาก เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯ รวมถึงเจ้าของบ้านที่จะสร้างบ้านเองหันมาติดตั้งลิฟต์บ้านกันมากขึ้น สมัยก่อนตลาดลิฟต์บ้านมีสัดส่วนแค่ 2% แต่ใน 5ปีที่ผ่านมาสัดส่วนเพิ่มเป็น 10%

นอกจากบุกด้านการขายแล้ว มิตซูบิชิฯยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ปัจจุบันมีศูนย์บริการในกรุงเทพฯและปริมณฑลรวมกัน 10 ศูนย์ และต่างจังหวัด 12 แห่ง ในธุรกิจเดียวกันถือว่ามีศูนย์บริการมากที่สุด โดยมีศูนย์ฝึกอบรม "มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์" ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.7 โดยเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ประกอบด้วยห้องฝึกอบรมหลัก 4 ห้อง ลิฟต์จำนวน 7 เครื่อง บันไดเลื่อน 2 เครื่องนอกจากนั้นยังมีห้องแสดงตัวอย่างสินค้าเช่น แผงปุ่มกด ผนังลิฟต์ เพดานลิฟต์ต่างๆ ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาชมสินค้าขนาดรวมทั้งระบบ Access Control พร้อมรองรับการเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านการขนส่งแนวดิ่ง (Vertical Transportation) ในภูมิภาค

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560