บุกคันไซ รับลมหนาว ไขความสุข

หิมะที่กำลังเริ่มละลาย อากาศหนาวเย็นอุณหภูมิไม่เกิน 10 องศาของญี่ปุ่นในขณะนี้ช่างสวนทางกับเปลวแดดนอกหน้าต่างของเมืองไทยยิ่งนัก เมื่อนึกถึง “ญี่ปุ่น” ในมุมคิดของเด็กหนุ่มที่เกิดในยุค 90 คงต้องโฟกัสไปที่การ์ตูนยอดฮิตหลากหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจาะไปยังพื้นที่ “ภูมิภาคคันไซ”เด็กหนุ่มผิวคล้ำน้ำเสียงเหน่อผู้ซึ่งได้รับฉายานักสืบตะวันตก“ฮัตโตริ เฮย์จิ”จากการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันเด็ก ม.ปลายจากโรงเรียนไคโฮเมืองโอซะกะ ผู้ซึ่งมีไหวพริบที่ดีในการไขคดีต่างๆจนคลี่คลาย ซึ่งนอกจากบทบาทหรือภาพของการ์ตูนที่เราเห็น ความสวยงามในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกถึงความเจริญงอกงามทางจิตใจของประชากร ความสร้างสรรค์ด้านศิลปะของมนุษย์ ตลอดจนภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว เป็นต้น และนี่เป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจสำหรับการไขความสุขของดินแดนแห่งนี้“คันไซ”

นอกจากการถ่ายภาพกับซากุระแบบเต็มอิ่ม แกะขาปู ช้อปปิ้งสุดมันส์สมการรอคอยแล้ว ภูมิภาคคันไซยังมีเรื่องราวที่น่ารู้และต้องรู้อีกมาก ก้าวแรกสำหรับการเรียนรู้ในภูมิภาคแห่งนี้ เราขอฉายภาพรวมทางกายภาพทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่ทิศเหนือจรดกับทะเลญี่ปุ่น ทิศใต้ชิดกับคาบสมุทรคิอิและมหาสมุทรแปซิฟิกทิศตะวันตกติดกับทะเลเซะโตะไปจนถึงฮิเมะจิและทิศตะวันออกติดกับทะเลสาบบิวะ อันเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แบ่งเขตการปกครองภายในออกเป็น 7 จังหวัด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “เมืองโอซะกะ” ดินแดนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น และ “เมืองเคียวโตะ” เมืองหลวงในอดีตของแดนอาทิตย์อุทัย

“คันไซ คือ ศูนย์กลาง” ภูมิภาคแห่งนี้ในอดีตเป็นที่ตั้งของความเจริญสำหรับญี่ปุ่นในยุคแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองเคียวโตะเคยเป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศมานานนับพันปี ภาพที่เห็นเด่นชัดคือ โบราณสถานและโบราณวัตถุอย่างเช่น พระราชวังที่ประทับองค์จักรพรรดิหรือพระราชวังอิมพีเรียล นอกจากความงดงามทางประวัติศาสตร์ภูมิภาคแห่งนี้ยังมีความโดดเด่นอีกหลายด้าน เช่น อาหาร โดยเฉพาะผู้ที่หลงไหลในเนื้อวัวอย่างเนื้อโคเบะ เนื้อมัตสึซะกะ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ต่อมาในเรื่องของโทนเสียงผู้คนจากภูมิภาคแห่งนี้ส่วนใหญ่มีสำเนียงเป็นของตัวเองเรียกว่า คันไซเบง รวมทั้งการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเพราะทำเลที่ตั้งเพียบพร้อมไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่น ท่าเรือ สนามบิน และสถานีรถไฟ นับได้ว่าเรื่องราวความเป็นมาในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ภูมิภาคคันไซคือศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ศิลปะ ประวัติศาสตร์ของประเทศอย่างแท้จริง

[caption id="attachment_135287" align="aligncenter" width="503"] บุกคันไซ รับลมหนาว ไขความสุข[/caption]

ด้วยปัจจัยดังกล่าวผนวกกับการพัฒนาของประเทศอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนสำคัญในการสร้างชื่อเสียงให้กับคันไซ ซึ่งสัญลักษณ์ที่ทำให้เรานึกถึงคันไซในปัจจุบันคงต้องยกให้กับ Universal Studios ตั้งอยู่ที่เมืองโอซะกะ โดยแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดให้เหล่าแฟนคลับสายบัตเตอร์ เบียร์ เข้ามาคือ โลกของเวทมนต์กับ (TheWizardingWorld of HarryPotter)ซึ่งผู้มาเยือนจะได้พบกับ ปราสาทฮอกวอตส์หรือHarry Potter and the Forbidden Journey สถานที่จำลองที่จะทำให้ทุกคนเสมือนได้ขี่ไม้กวาดผจญภัยและสัมผัสกับเสียงพ่อมดและแม่มดจริงๆ ปัจจุบันหลากหลายองค์กรได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ อาทิ ลูกค้าที่บินกับสายการบิน Thai AirAsia X สามารถซื้อบัตรได้จากเครื่องบินโดยสารในราคาเท่ากับหน้าสวนสนุก ที่สำคัญสามารถปรับเปลี่ยนแพลนในวันท่องเที่ยวได้อย่างสุขใจ

ต่อด้วยการเติมความหวานให้หยดย้อยยิ่งขึ้นด้วยการเดินทางไปยัง “Amanohashidate”บริเวณอ่าวมิยาซุ (Miyazu Bay) ที่เป็นเมืองริมทะเลที่โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม จนเรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และเมื่อเราได้ขึ้นมาถึงจุดชมวิวแล้วอยากให้ลองมองกลับหัว ภาพที่เห็นจะดูคล้ายกับสะพานไปสู่สวรรค์ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น

นอกจากความสวยงามทางอุตสาหกรรม ความดั่งเดิมของคันไซในหลากมิติยังคงเป็นเสน่ห์ที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับการปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทาง ยกตัวอย่างเช่น ปราสาทโอซะกะวัดโทจิ วัดที่สูงที่สุดในประเทศ เซนโนะรีคีว พ่อค้าจากซะไก ผู้รักษาธรรมเนียมพิธีชงชาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นโถงทองคำ วัดโฮริวจิ สิ่งก่อสร้างไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หรือจะเป็นอะมะโนะฮะชิดะเตะ หนึ่งในสามวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของดินแดนอาทิตย์อุทัย
เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว คำกล่าวที่นักสืบตะวันออกอย่าง คุโด้ ชินอิจิเพื่อนสนิทของฮัตโตริ เฮย์จิ เป็นคำการันตีได้เป็นอย่างดีว่า คันไซภูมิภาคแห่งนี้มีเรื่องราวอีกหลากหลายที่รอให้คุณไปเรียนรู้ สัมผัส และสร้างความทรงจำดีๆให้กับชีวิตอีกมากมาย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560