ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแจงเหตุไม่อนุญาตให้รถอูเบอร์เข้ามารับผู้โดยสารภายในพื้นที่

26 ก.พ. 2560 | 12:19 น.
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแจงเหตุไม่สามารถอนุญาตให้รถอูเบอร์ เข้ามารับผู้โดยสารภายในพื้นที่ได้ เนื่องจากมีการนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถขนส่งสาธารณะอย่างถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกมาใช้งาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดของ ทอท. และกฏหมาย

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีเพจข่าวด้านการท่องเที่ยวชื่อดังในสื่อสังคมออนไลน์ ได้เผยแพร่ข่าวเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เข้าควบคุมตัวผู้ให้บริการรถอูเบอร์ไม่ให้รับผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการ และได้มีการเชิญผู้ให้บริการคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่ไปนั้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้มีผู้ให้ความสนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะให้รถอูเบอร์เข้ามาให้บริการใน ทสภ.ได้ เนื่องจากมีการบริการที่ดีกว่ารถแท็กซี่ที่ให้บริการอย่างถูกต้องใน ทสภ.นั้น

ทสภ. จึงขอชี้แจงว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ ทสภ. ในครั้งนี้เป็นการกระทำตามหน้าที่ ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของ ทอท.และกฎหมาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 16.50 น. เจ้าหน้าที่ ทสภ. ได้ตรวจพบนายพลภัทร สวรรคโลก สมาชิกเครือข่ายอูเบอร์ (Uber) นำรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีเทา ทะเบียน 2กญ-4139 กทม.เข้ามาจอดรอเปิดสัญญาณแอ็พอูเบอร์ บริเวณชานชาลาด้านนอก ชั้น 2ประตู 5 เพื่อรอรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น 2 คน ไปส่งโรงแรมเลอเมอริเดียนในราคาแบบเหมาจ่าย 300 บาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำเข้าข่ายในความผิดตามข้อกำหนดของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทอท.) ว่าด้วย การดำเนินมาตราการรักษาความปลอดภัย ในข้อ 5(4) ซึ่งกำหนดให้พื้นที่บริเวณชานชาลา และถนนหน้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1,2 และ 4 เป็นพื้นที่ควบคุม ซึ่งต้องมีการปฏิบัติตามกฏ ระเบียบ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ทอท.กำหนด และห้ามมิให้ผู้ใดปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยในข้อ 5(4) ระบุว่าห้าม "นำรถหรือยานพาหนะใดๆ มาใช้ในการประกอบกิจการ หรือดำเนินการใดๆ ในลักษณะที่ผิดกฏหมาย หรือแสวงหาผลประโยชน์จากผู้โดยสารอากาศยาน ผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน หรือบุคคลใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ทอท. " โดยรถของนายพลภัทร ซึ่งเข้ามาเรียกรับผู้โดยสาร เป็นการนำรถมาใช้ผิดประเภทตามกฏหมายของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อีกทั้งยังเป็นการให้บริการรถสาธารณะโดยไม่เปิดมาตรมิเตอร์ ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นจึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกำหนดของ ทอท.ให้นาย พลภัทร รับทราบ พร้อมทั้งเชิญให้ออกนอกพื้นที่ท่าอากาศยาน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ควบคุม และเนื่องจากรถที่นายพลภัทรเป็นรถส่วนบุคคลแต่นำมาใช้เรียกรับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจึงออกใบสั่งในข้อหาใช้รถผิดประเภท และโดนเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2,000 บาท รวมทั้งถูกเชิญตัวมาทำประวัติด้วย

นายศิโรตม์ กล่าวต่อไปว่า การที่ ทอท. ต้องมีข้อกำหนดในลักษณะเช่นนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. ประสบปัญหาจากการที่มีผู้ที่เป็นไกด์ผี แท็กซี่เถื่อนเข้ามารบกวนและเรียกรับผู้โดยสาร ซึ่งได้ก่อความรำคาญและเดือดร้อนแก่ผู้โดยสารเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเพื่อให้การบริการรถสาธารณะภายในท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทอท. จึงจำเป็นต้องมีการออกข้อกำหนดดังกล่าว เพื่อให้สามารถจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามหากในอนาคตรถแท็กซี่อูเบอร์ มีการจดทะเบียนได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมายจาก ขบ. และได้มีการขอเข้ามาประกอบธุรกิจภายในท่าอากาศยานอย่างถูกต้อง ทสภ. จึงจะสามารถอนุญาตให้รถแท็กซี่อูเบอร์เข้ารับผู้โดยสารได้

ทสภ. ได้ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลรถแท็กซี่สาธารณะที่เข้ามาให้บริการใน ทสภ. ให้ปฏิบัติตามกฏหมายและให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมา ทสภ. ได้มีนโยบายในการเข้มงวดกวดขันให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ภายใน ทสภ. เปิดมิเตอร์ในการให้บริการผู้โดยสารทุกคัน โดยได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากพบผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันใดไม่คิดค่าบริการตามที่กฏหมายกำหนด ทสภ.จะมีบทลงโทษโดยการสั่งระงับรหัสผู้ขับขี่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ขับขี่ดังกล่าวไม่สามารถเข้ามาให้บริการภายใน ทสภ. เป็นการชั่วคราวหรือเป็นการถาวรได้ ซึ่งที่ผ่านมา ทสภ. ได้มีการลงโทษผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการกระทำไม่เหมาะสมทุกราย ทั้งนี้ ทสภ. ใคร่ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่ใช้บริการรถแท็กซี่ ณ ทสภ. โปรดเก็บสลิปบัตรการใช้บริการฯ ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประโยชน์ในการติดตามข้อมูลสำคัญต่างๆ หากเกิดกรณีขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น กรณีหลงลืมสัมภาระหรือติดต่อร้องเรียนการให้บริการด้านอื่นๆ เนื่องจาก ทสภ. มีระบบการลงทะเบียนและฐานข้อมูลประวัติของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารที่ใช้บริการแท็กซี่สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ ทสภ. พบปัญหาและต้องการร้องเรียนการให้บริการรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนกับ ทสภ. ในด้านต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานแท็กซี่ ทสภ. หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 0360 และ 02 132 9199 หรือ AOT Call  Center โทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง