FSMART ตอกย้ำเจ้าตลาดตู้เติมเงิน ตั้งเป้าขยายตู้เป็น 1.2 แสนตู้ ยอดเติม 3 หมื่นล้านบาท คาดปีนี้ตลาดเติมเงินมือถือเติบโตเล็กน้อย เหตุค่ายมือถือแข่งดุหวังชิงตลาดเติมเงินเป็นหลัก เผยสัดส่วนยอดเติมเงินอาจเปลี่ยนหลังเห็นแววยอดการโอนเงิน รวมถึงช่องทางอื่นๆ เติบโต พร้อมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Be wallet ก.พ. นี้
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) “FSMART” ผู้นำช่องทางการชำระเงินผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยแผนการดำเนินงานในปี 2560 ว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายติดตั้งตู้เติมเงินบุญเติมไว้ที่จำนวน 120,000 ตู้ทั่วประเทศ เพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่ปัจจุบันสามารถดำเนินการติดตั้งได้มากกว่า 90,000 ตู้ และตั้งเป้าหมายยอดเติมเงินที่ 30,000 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์ในการบริหารยอดเติมเฉลี่ยต่อตู้ทั้งการคัดเลือกทำเลในจุดคุณภาพ ตลอดจนการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว
ขณะที่บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตู้เติมเงินให้มีการเติบโต พร้อมทั้งเป็นตัวแทนการชำระเงินและโอนเงินแบบเบ็ดเสร็จที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้งาน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้าและบริการ ได้แก่ ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมพร้อมเครื่องชั่ง บุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิส ตู้กดน้ำดื่มสะอาดและเติมเงิน และตู้น้ำมันอัตโนมัติ พร้อมด้วยบริการในตู้กว่า 59 รายการที่จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกๆปี อีกทั้งยังพัฒนาสินค้า และเสริมบริการใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
ปัจจุบัน ”บุญเติม”ยังครองอันดับ 1 ของธุรกิจตู้เติมเงิน ด้วยจำนวนตู้มากกว่า 90,000 ตู้ทั่วประเทศ ซึ่งในปี 2559 บริษัทยังคงขยายตู้เติมเงินบุญเติมได้มากกว่าเป้าหมาย ทำสถิติในการติดตั้งได้มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นช่องทางการเติบโตอีกจำนวนมาก ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะมีการดำเนินงานได้ตามเป้าหมายเช่นเดียวกัน ทั้งในเรื่องของยอดเติม และจำนวนตู้เติมเงินที่จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ เนื่องจากบริษัทมีทีมตัวแทนที่มีศักยภาพทั่วประเทศกว่า 200 รายตามโมเดลธุรกิจแฟรนไชน์ที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว อีกทั้งช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
“โดยรวมบริษัทยังคงรูปแบบโมเดลธุรกิจหารายได้ 5 ช่องทาง หรือ Digital Retail Channel ตามแผนเดิม ทั้งในเรื่องของการขยายจำนวนตู้เติมเงินให้ได้ 120,000 ตู้ด้วยโมเดลธุรกิจแฟรนไชน์ ที่จะส่งผลต่อยอดเติมเงินตามเป้าหมายที่ 30,000 ล้านบาท รวมถึงในส่วนการหารายได้อื่นๆ โดยโมเดลดังกล่าวเป็นแผนระยะยาวที่ดำเนินการมาตลอดและสร้างการเติบโตทุกๆด้าน แต่ในปีนี้สัดส่วนยอดเติมเงินอาจมีการปรับเปลี่ยนหากบริษัทมียอดเติมเงินและรายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มเข้ามาอย่างชัดเจน”นายสมชัย กล่าว
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส กล่าวว่า ในปีนี้สัดส่วนยอดเติมเงินของบริษัทอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยสัดส่วนยอดเติมเงินมือถือจะลดลงอยู่ที่ 90% จากปีก่อนที่มีกว่า 95% เนื่องจากสัดส่วนยอดเติมเงินในส่วนของการเติมเงินอื่นๆเพิ่มขึ้น เช่น บริการโอนเงิน บริการเครื่องชั่งน้ำหนัก ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการ เช่นเดียวกับรายได้จากบริการใหม่ๆภายในตู้ที่เพิ่มขึ้น จากการเจรจากับพันธมิตรตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน การจ่ายบิลและชำระสินค้าออนไลน์ผ่านบุญเติม การซื้ออินเตอร์เน็ต และโปรเสริมของเครือข่ายต่างๆ รวมไปถึง การดูดวง การเติมเกมส์ การซื้อประกันภัยผ่านตู้บุญเติม ตลอดจนการเติม Wallet และซื้อรหัสบัตร เป็นต้น
ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์บริษัทเตรียมเปิดให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ “Be wallet” บนสมาร์ทโฟน หลังจากที่มีการพัฒนาระบบตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อให้บริการเติมเงิน รับชำระบิล และบริการอื่นๆ รวมถึงการซื้อสินค้าผ่านแอพแอพพลิเคชั่น และยังสามารถซื้อสินค้าจากตู้ขายเครื่องดื่มของบริษัทในเครือได้อีกด้วย
สำหรับมูลค่าตลาดเติมเงินมือถือในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเล็กน้อย ประเมินจากปี 2559 ที่มีมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาทเติบโต 5% จากปี 2558 เนื่องจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือยังมีการแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งจากตลาดเติมเงินมือถือเป็นหลัก ด้วยการจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้า ต่างจากปีก่อนหน้าที่เน้นโปรโมชั่นการแจกมือถือเพื่อดึงดูดให้เปลี่ยนเครือข่ายจาก 2G ไปยัง 3G ซึ่งส่งผลดีกับตู้บุญเติมมากกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ในการจัดโปรโมชั่นร่วมกันเพื่อส่งเสริมการขายซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนบุญเติมจะสร้างความต้องการ(demand)ในการซื้อแพกเกจผ่านตู้ โดยเพิ่มบริการในส่วนของการขาย data package ให้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเติมเงินมือถือที่มีแนวโน้มใช้งานในส่วนของ non-voice หรือ data ที่มากขึ้น