รายงานข่าวจากรมทางหลวง เผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้ กรมทางหลวงได้รายงานสรุปเหตุการณ์ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินในเส้นทางสายหลักที่จะเดินทางไปสู่ภาคใต้ ประจำวันที่ 9 มกราคม 2560 มีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร, จังหวัดตรัง, จังหวัดนครศรีธรรมราช, จังหวัดพัทลุง, จังหวัดยะลา, จังหวัดกระบี่ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนทั้งสิ้น 18 สายทาง (จำนวนรวม 21 แห่ง) การจราจรสามารถผ่านได้ 12 แห่ง ผ่านไม่ได้ 9 แห่ง ดังนี้
จังหวัดชุมพร การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง
ทล.4134 หลังสวน – ละแม พื้นที่ อ.หลังสวน กม.17 คอสะพานขาด ใช้ทางเลี่ยงในชุมชน
จังหวัดตรัง การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 5 แห่ง
1.ทล.419 ตรัง – กันตรัง พื้นที่ อ.กันตรัง กม.130 - 134 ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ ทล.4261 ป่าเตียว – ทุ่งค่าย
2.ทล.419 ถ.วงแหวนรอบเมืองตรัง พื้นที่ อ.เมืองตรัง กม.2 - 5 ระดับน้ำสูง 45 ซม.เส้นทางเลี่ยง ปิดการจรจร ใช้ ทล.4046 แทน
3.ทล.4236 ถ.แพรก – ลำนาว พื้นที่ อ.ห้วยยอด กม.11 ระดับน้ำสูง 90 ซม. ไม่มีทางเลี่ยง
4.ทล.4258 บ้านซา – ควนชัน พื้นที่ อ.ห้วยยอด กม.10 – 11 ระดับน้ำสูง 90 ซม. ไม่มีทางเลี่ยง
5.ทล.4347 ตลาดฉุ้น – บ้านซา พื้นที่ อ.ห้วยยอด กม.1 – 2 ระดับน้ำสูง 55 ซม. เส้นทางเลี่ยง ใช้ ทล.4 และ ทล.4258 แทน
จังหวัดนครศรีธรรมราช การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง
ทล.4151 บ่อล้อ – กุมแป พื้นที่ อ.เชียรใหญ่ กม.2 ระดับน้ำสูง 60 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
จังหวัดยะลา การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง
ทล.4060 กะรุบี – ต๊ะโล๊ะหะลอ พื้นที่ อ.รามัน กม.27 ทางขาด ไม่มีสายทางทดแทน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง
ทล.4 ห้วยยาง – บางสะพาน พื้นที่ อ.ทับสะแก กม.357 – 359
ทั้งนี้จากกรณีน้ำท่วมบนทางหลวงหมายเลข 4 ห้วยยาง – บางสะพาน พื้นที่ อ.ทับสะแก กม.357 – 359 ทำให้เส้นทางการเดินทางไปสู่ภาคใต้ ไม่สามารถเดินทางได้ (9 มกราคม 2560 เวลา 14.30 น.)
รวมถึงยังเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ของภาคใต้ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวงประกอบด้วยสำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชม. โดยภารกิจหลักตอนนี้คือช่วยให้การจราจรผ่านได้ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่สะพานขาดหน่วยงานดำเนินการเองของกรมทางหลวงได้แก่ศูนย์สร้างทางและศูนย์สร้างและบูรณะสะพานในพื้นที่ เข้าพื้นที่แก้ไขโดยใช้เวลาอย่างรวดเร็วที่สุด หลักจากเมื่อน้ำลดจะทำการสำรวจความเสียหายเพื่อซ่อมแซมสู่ความยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้น เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ของผู้ใช้ทาง หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)