กสร.ย้ำนายจ้างตรวจสอบระบบไฟฟ้า พบชำรุดต้องแก้ไข ฝ่าฝืนเจอโทษอาญา

16 พ.ย. 2559 | 11:38 น.
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กำชับนายจ้างตรวจสอบ ดูแลระบบไฟฟ้า และบริภัณฑ์ไฟฟ้าในสถานประกอบกิจการให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากพบชำรุดต้องแก้ไขทันที หากฝ่าฝืนมีโทษทางอาญาจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.)  เปิดเผยว่า จากข่าวอัคคีภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสถานประกอบกิจการก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สิน บางครั้งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบกิจการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ  และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. 2558 กำหนดให้เป็นหน้าที่ของนายจ้างต้องดูแลบริภัณฑ์ไฟฟ้า และสายไฟฟ้าให้ใช้งานได้โดยปลอดภัย รวมทั้งต้องจัดให้มีการตรวจสอบและจัดให้มีการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและบริภณฑ์ไฟฟ้าเพื่อใช้งานได้อย่างปลอดภัย กสร.ในฐานะของหน่วยงานหลักซึ่งดูแลความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ นายจ้าง ลูกจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้นายจ้าง ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและหากตรวจสอบแล้วพบว่าชำรุด หรือมีกระแสไฟฟ้ารั่ว หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้งานให้ซ่อมแซมหรือดำเนินการให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัยโดยทันที เพื่อร่วมมือกันในการป้องกันและสร้างเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความปลอดภัยฯ ตามเป้าหมาย Safety Thailand  ด้วย

สำหรับนายจ้างที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ.2558 มีโทษทางอาญา คือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางกสร.ได้กำชับให้พนักงานตรวจความปลอดภัยดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายของนายจ้างในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดด้วย