2 แอร์ไลน์เล็งเปิดรูตใหม่สู่จีน รุกทัวร์คุณภาพ/‘ททท.เฉินตู’ ผนึกเสฉวนฯบินอู่ตะเภา

12 ต.ค. 2559 | 07:00 น.
ไทยสมายล์-นกแอร์ เล็งสยายปีกจุดบินใหม่สู่จีน เน้นเจาะทัวร์จีนคุณภาพ ผนึกททท.ทำตลาด ชี้แนวโน้มเดือนตุลาคมนี้มีสัญญาณบุ๊กกิ้งขยับขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า ด้านททท.เฉินตู จับมือ เสฉวน เซี่ยงไฮ้ แอร์ไลน์ส เปิดเช่าเหมาลำบินตรงเข้าสนามบินอู่ตะเภา โปรโมตพัทยา พร้อมเปิดขายแหล่งท่องเที่ยว 3 เส้นทางใหม่ ชูเที่ยว 3 เกาะดังฝั่งอ่าวไทย เกาะล้าน เกาะช้าง เกาะเสม็ด หวังยกระดับนักท่องเที่ยวสู่คุณภาพ

กัปตันวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าสายการบินไทยสมายล์ อยู่ระหว่างเตรียมแผนเปิดจุดบินสู่ประเทศจีน ใน 2 เส้นทางบินใหม่ คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-เจิ้งโจว ซึ่งมีจุดขายของเมืองไคฟง ศาลเปาบุ้นจิ้น วัดเส้าหลิน และเส้นทางกรุงเทพฯ-หังโจว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องขออนุญาตทำการบินเข้าจีน เนื่องจากมองเห็นโอกาสในการทำตลาดที่จะเกิดขึ้น

ส่วนการจับกุมและแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่ออัตราการบรรทุกเฉลี่ยของสายการบินใน 2 เส้นทางที่เปิดให้บริการอยู่ คือ ฉงชิ่งและฉางซา ที่ปกติอยู่ที่75% เดือนกันยายนที่ผ่านมาลดเหลือ 50% แต่ในเดือนตุลาคมนี้ มีสัญญาณเริ่มกลับมา โดยตอนนี้ขยับขึ้นมาเป็น 60% ปลายๆแล้ว ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนี้ของภาครัฐจะเป็นผลดีในระยะยาว ที่จะได้ทัวร์จีนในกลุ่มที่มีคุณภาพเดินทางมาเที่ยวไทย ซึ่งในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา สายการบินได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)นำคณะสื่อมวลชนจากทั้งเมืองนี้ เดินทางมาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วย

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นกแอร์ วางแผนขยายฝูงบินรุ่นโบอิ้ง 737-800 เป็น 23 ลำภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเร่งขยายเส้นทางบินไปยังต่างประเทศในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยสายการบินกำลังมองการขยายเส้นทางบินไปยัง 2 เมืองในประเทศจีน ได้แก่ เมืองคุนหมิงและกวางโจว เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของทั้ง 2 ประเทศ และประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่มีจำนวนคนเดินทางสูงและมีความสำคัญ

โดยนกแอร์มุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพในการเดินทางมากกว่าปริมาณ และด้วยข้อดีของเวลาบินที่สั้นจะช่วยประเทศไทย ในการนำนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศจีนได้มากขึ้นเช่นกัน นอกจากประโยชน์จากการขยายเส้นทางบินสู่ประเทศจีนแล้ว เรายังได้กำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ในประเทศจีน ซึ่งนกแอร์ กำลังร่วมมือกับททท. ในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

นายจรัญ ชื่นในธรรม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน เฉินตู เปิดเผยว่า ททท.ได้นำบริษัท เสฉวน เซี่ยงไฮ้ แอร์ไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 3 ของมณฑล เสฉวน และยังมีธุรกิจสายการบินเช่าเหมาลำอยู่ด้วย เดินทางเข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทดังกล่าวจะโปรโมตการท่องเที่ยวพัทยาในมุมมองใหม่ โดยใช้เที่ยวบินเช่าเหมาลำ บินตรงลงสนามบินอู่ตะเภา พร้อมจัดโปรแกรมนำเที่ยวขาย 3 แพ็กเกจ ประกอบด้วย 1 การขายโปรแกรมเที่ยวพัทยา บวกเกาะล้าน โดยพักพัทยา 2 คืนเกาะล้าน 2 คืน 2. พัทยาบวกเกาะเสม็ด และ 3 .พัทยาบวกเกาะช้าง

ทั้งนี้เพื่อเป็นการโปรโมตจุดหมายปลายทาง ทางการท่องเที่ยว ใหม่อย่าง เกาะเสม็ด เกาะช้าง ขณะเดียวกันก็เป็นการเสนอขายพัทยาในมุมมองใหม่โดยไม่แวะกรุงเทพฯ เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเท่ากับเป็นการยกระดับสู่ตลาดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ตามนโยบายรัฐบาล เนื่องจากหลังเดินทางไปสำรวจสนามบินอู่ตะเภาพบว่ามีความพร้อมในการรองรับสายการบินเช่าเหมาลำ อีกทั้งขณะนี้ยังมีโปรโมชัน ลดค่าบริการ เที่ยวบินขึ้น-ลง (แลนดิ้ง) และค่าบริการจอดเครื่องบิน ให้แก่สายการบินที่ไปใช้บริการอีกด้วย ส่วนระยะเวลาในการบินนั้นจาก เฉินตูใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

"สาเหตุที่ต้องนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่เป็นเพราะต้องการยกระดับตลาดนักท่องเที่ยวสู่ตลาดทัวร์คุณภาพ และมีการปรับราคาค่าแพ็กเกจทัวร์จาก 2 พันหยวนเป็น 4 พันหยวน ตามนโยบายรัฐจึงต้องหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่มานำเสนอขาย คาดว่าจะเริ่มในราวปลายเดือนตุลาคมนี้ อีกทั้งยังพบว่านักท่องเที่ยวในพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือของจีนมีความต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล"

ขณะที่ผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญก็ยังมีอยู่ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย มณฑลเสฉวน ฉงชิง ฉางชา ซีอาน เฉินตู ลดลงไปราว 30 % ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทาง ที่เดินทางมาแบบกรุ๊ปทัวร์และเดินทางมาเอง(เอฟไอที) แต่ละปีในพื้นที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนไทยในราว 1.2 ล้านคนหรือเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนคน หายไปราว 3 หมื่นคน

"ผมมองว่าเป็นปัญหาระยะสั้นเท่านั้นหากรัฐบาลมีมาตรการรองรับโดยเร็วสถานการณ์ก็จะดีขึ้นเพราะทุกฝ่ายเห็นด้วยกับการยกระดับตลาดทัวร์คุณภาพ"

อย่างไรก็ดีจากการมีสายการบินเปิดให้บริการบินตรงจากเข้าแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคหลายแห่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดมากนัก ประกอบด้วยสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส ทิเบต แอร์ และลักส์แอร์ มีจำนวนที่นั่ง 8,000 ที่นั่งต่อเดือน เปิดเส้นทางบินตรงจาก เฉินตูมาเกาะสมุย เฉินตู-กระบี่และเฉินตู-เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีสายการบินนกแอร์ และไทยแอร์เอเชียเปิดเส้นทางบินตรงเข้าภูเก็ตอีกด้วย ซึ่งจะเห็นชัดว่าช่วงวันชาติจีนที่ผ่านมายอดบุ๊กกิ้งเต็มหมด

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงมาจาก บริษัทนำเที่ยวปรับตัวไม่ทัน ทำให้เกิดปัญหาการขาดทุนเมื่อต้องขายทัวร์ในราคาที่แพงขึ้น บางส่วนยอมขาดทุนเพราะนักท่องเที่ยวชำระเงินแล้ว หรือบางส่วนย้ายนักท่องเที่ยวไปเวียดนามแทน หรือไม่ก็ยกเลิกการเดินทางไปเลย เพราะไม่ต้องการเจอปัญหา ไม่มีรถบัสบริการ อีกทั้งราคาที่เพิ่มขึ้นทำให้ขาดทุนและบริษัทนำเที่ยวไม่แน่ใจเรื่องค่าคอมมิชชั่นว่าทำได้แค่ไหนจึงไม่ผิดกฎหมาย จึงระงับการขายไว้ก่อน รอดูท่าทีก่อน นายจรัญกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,199 วันที่ 9 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559