ไทยแอร์เอเชีย-ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เพิ่มเครื่องบิน 150 ลำเสริมทัพ บินยุโรป

10 ม.ค. 2567 | 18:00 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2567 | 09:57 น.

ไทยแอร์เอเชีย-ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จ่อเพิ่มเครื่องบิน 150 ลำ จากแอร์เอเชีย กรุ๊ป นำมาเสริมทัพ จ่อบินยุโรป พร้อมยันรออีก 2 ปี หลังไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ออกจากแผนฟื้นฟู เดินหน้าแผนควบรวม 2 สายการบินเป็นสายการบินเดียวกัน เหมือนโมเดลมาเลเซีย

จากกรณีที่ล่าสุดแอร์เอเชีย กรุ๊ป ได้จัดหาเครื่องบินใหม่จำนวน 412 ลำ โดย 75% Already in finance (อยู่ในขั้นตอนสัญญาทางการเงินแล้ว)และอยู่ในขั้นตอนผลิตและส่งมอบ แบ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส A321neo จำนวน 377 ลำ, แอร์บัส A321XLR จำนวน 15 ลำ และแอร์บัส A330 neo จำนวน 20 ลำ และจะทยอยเข้าสู่ฝูงบินนับจากนี้

ล่าสุดนายธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า จากกรณีสายการบินในกลุ่มแอร์เอเชีย มีแผนจะสั่งเครื่องบินเพิ่มอีก 412 ลำ ซึ่งจะทยอยรับมอบในระยะยาว เป็นเครื่องบินระยะบิน 8 ชั่วโมง และ 12 ชั่วโมง

ธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์

โดยในจำนวนนี้กว่า 25% ของจำนวนเครื่องบินทั้งหมดที่สั่งไป หรือประมาณ 100-150 ลำ จะนำมาปฏิบัติการบินในประเทศไทย ในนามของไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์

ทั้งนี้การมีเครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ จะทำให้สายการบินเปิดเส้นทางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน เช่น เชียงใหม่-บาหลี, กรุงเทพฯ สู่ ญี่ปุ่นในเส้นทางที่ยังไม่เคยทำการบิน หรือเกาหลีใต้ในบางเมือง

ทั้งนี้ปัจจุบันสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” (รหัสเที่ยวบิน FD) มีฝูงบินรวม 57 ลำ นำไปทำการบินจริง 51 ลำ ส่วนอีก 6 ลำอยู่ระหว่างซ่อมบำรุง เฉพาะในปี 2567 จะรับมอบแอร์บัส A321 อีก 3 ลำ ทำให้ไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินทั้งหมด 60 ลำ ตั้งเป้าสิ้นปี 2567 มีจำนวนผู้โดยสาร 20-21 ล้านคน ยังน้อยกว่าจำนวนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาดซึ่งปิดที่ตัวเลข 22 ล้านคน แต่ก็ถือว่าดีกว่าปี 2566 ที่มีจำนวน 18 ล้านคน

ขณะที่สายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” (รหัสเที่ยวบิน XJ) จะเพิ่มขนาดฝูงบินเป็น 10 ลำ จากปัจจุบันมี 6 ลำ โดยในปี 2567 จะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A330-300 อีก 4 ลำใหม่ เพื่อนำไปทำการบินเส้นทางใหม่สู่เอเชียกลาง เช่น เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตทำการบิน ส่วนประเทศจอร์เจีย ที่เคยทำการบินก่อนหน้านี้ แต่หยุดบินไปชั่วคราว เมื่อเครื่องบินพร้อม ก็จะกลับไปทำการบินอีกครั้ง

ขณะเดียวกันจะนำเครื่องบินไปเพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ของประเทศจีน และกลับไปเปิดเส้นทางบินสู่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้ในปลายปี 2567 ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ไป “ยุโรป” เป็นครั้งแรก ขณะนี้กำลังศึกษาหลายเส้นทางสู่ยุโรปตะวันออก ได้แก่ ปราก บูดาเปสต์ โรม มิลาน และเวียนนา

ธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า  สำหรับการควบรวมไทยแอร์เอเชีย กับไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่จะเป็นรูปแบบเหมือนกับแอร์เอเชีย กรุ๊ป ประเทศมาเลเซีย ที่มีการควบรวมระหว่างแอร์เอเชีย และแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ในส่วนของประเทศไทยคงต้องรออีก 2 ปีจากนี้ เนื่องจากต้องรอให้ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเสียก่อน คาดว่าจะออกจากแผนได้ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งปัจจุบันไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้ทยอยชำระหนี้ หลังจากแฮร์คัตได้ 70% คาดว่าในปลายปี 2568 น่าจะออกจากแผนฟื้นฟูได้

ทั้งนี้ในอนาคตหากไทยแอร์เอเชีย ควบรวมกับไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ได้ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริหารฝูงบินที่ยืดหยุ่นระหว่างการใช้เครื่องบินที่มีขนาดต่างกัน การบริหารตารางการบิน (สล็อตบิน)ให้เชื่อมกันได้ดีขึ้น

ทำให้บินในเดสติเนชั่นใหม่ๆ ก็จะสามารถทำได้ ผ่านการยืดหยุ่นในการใช้เครื่องบินให้สอดคล้องกับดีมานต์ของผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา อย่างในช่วงเทศกาล ไทยแอร์เอเชีย อยากจะเพิ่มจำนวนที่นั่งเครื่องบินก็ไม่สามารถทำได้ เพราะใช้เครื่องบินเล็ก แต่ถ้ามีเครื่องบินของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์มารวมก็จะทำให้เราใช้เครื่องที่ใหญ่กว่าทำการบิน เพื่อจะขายได้มากขึ้น