‘ณุศาศิริ’หนีกับดักเศรษฐกิจ ปรับกลยุทธ์ขายลงทุนควบแพ็กเกจสุขภาพ-ท่องเที่ยว

08 ก.พ. 2560 | 06:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ณุศาศิริ ฉีกแนวการตลาด ปรับกลยุทธ์สู่อสังหาฯ เพื่อการท่องเที่ยวและดูแลสุขภาพ คลอดแคมเปญซื้อคอนโดฯประกันผลตอบแทนการปล่อยเช่าควบแพ็กเกจดูแลสุขภาพ รวม 8% นาน 6 ปี

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทปรับกลยุทธ์การตลาด หันรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ควบการดูแลสุขภาพและการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด The Greatest Wealth is Health โดยเริ่มด้วยแพ็กเกจเพิ่มมูลค่าการลงทุน แบบ 5+3 ให้กับกลุ่มลูกค้าซื้อลงทุน โดยประกันผลตอบแทนการปล่อยเช่า 5 % ควบแพ็กเกจดูแลสุขภาพอีก 3% พร้อมประกันชีวิต โดยการลงทุนไม่มีการจำกัดวงเงินขั้นต่ำ จะซื้อ 1 ห้องหรือลงทุน 50 ล้านบาทก็ได้ เพียงแต่ลูกค้าที่ลงทุนไม่ถึง 30 ล้านบาทจะได้รับแต่ประกันตอบแทนค่าเช่า 5% และแพ็กเกจดูแลสุขภาพ แต่ถ้าลงทุนตั้งแต่ 30 -50 ล้านบาท จะครบทั้งหมด โดยขณะนี้กำลังคัดเลือกบริษัทประกันชีวิต

โครงการนำร่องมี 3 โครงการมีโครงการ อัพ คอนโดมิเนียม เอกมัย ,คอลมาร์ คอนโดมิเนียม เขาใหญ่ และโครงการ ณุศา ศรีราชา ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดขายมาก่อนหน้านี้ โดยมีเมอเวนพิค เชนโรงแรมชื่อดังระดับโลก เป็นพันธมิตรบริหารในลักษณะเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ สัญญา 15 ปี

ปัจจุบัน โครงการอัพ คอนโดมิเนียม เอกมัย ปัจจุบันเหลือขาย 30% โครงการ คอลมาร์ เขาใหญ่ มี 280 หน่วย ส่วนณุศา ศรีราชา ขาย 100% 1 อาคาร ที่เหลือปรับใบอนุญาตก่อสร้างโรงแรม 1 อาคาร พร้อมเปิดขายใหม่ และช่วงไตรมาส 2 มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการคือ โครงการ ณุศา ลายา ภูเก็ต และเดอะเลเจนด์ ไตรมาส 3 เปิดที่เชียงใหม่ ตามแผนปีนี้จะมุ่งตลาดเมืองท่องเที่ยวหลัก 4 แห่งคือ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และกรุงเทพฯเป็นหลัก

“เมื่อปลายปี 2559 เราปรับแผนธุรกิจ นำที่ดินที่ลงทุนคอนโดมิเนียม ปรับเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อการดูแลสุขภาพและโรงแรม จึงต้องแก้แบบใหม่หมด พร้อมศึกษาตลาดใหม่ เพราะไม่อยากอยู่วงจรเดิมๆ ขายแล้ว ลูกค้ากู้ไม่ผ่าน บริษัทต้องแบกรับภาระนำมาขายใหม่ คิดว่าการตลาดแบบเดิมทำให้ตลาดอสังหาฯผูกติดกับภาวะเศรษฐกิจมากไป ยามที่เศรษฐกิจไม่ดีธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบก่อน แต่ถ้าเราหันมาจับอสังหาฯเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็จะไม่ขึ้นกับกระแสประเทศไทย จะขึ้นกับกระแสโลก ถ้าต่างชาติไม่มาเที่ยวประเทศไทย ค่อยเดือดร้อน ปัจจุบันณุศา มีที่ดินที่พัทยา 340 ไร่ จะแบ่ง 200 ไร่ ทำโรงแรม พูลวิลล่า และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ก็มีกลุ่มทัวร์มาเช่าห้อง”

ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนยังไปได้ดีอยู่ การลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์นั้นข้อดีคือ ระหว่างที่ถือครองสามารถสร้างผลตอบแทนได้ด้วยการปล่อยให้เช่า และ ขณะเดียวกันมูลค่าของตัวสินทรัพย์ ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถขายทำกำไรได้ ซึ่งบางแห่ง ระยะเวลาผ่านไปเพียงแค่ 5 - 6 ปี สามารถทำราคาขายเพิ่มขึ้นไปสูงเกือบเท่าตัวก็มี โดยเฉพาะโครงการอสังหาฯ ใจกลางเมือง ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 80% ในรอบ 4 – 5 ปีที่ผ่านมา

“อีกปัจจัยหนึ่งคือตลาดเช่าคอนโดมิเนี่ยมระดับบน ที่มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เช่นจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง เข้ามาช่วยสร้างให้บรรยากาศคึกคักขึ้น นอกจากนี้ประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายท่องเที่ยว ที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวทั่วโลก กลุ่มนี้จะมองเรื่องความคุ้มค่า ความสะดวก ความปลอดภัย ตลอดจน การบริหาร จัดการ และบริการระดับโรงแรมไฮเอนด์ สามารถตอบสนองลูกค้า และเข้าใจวัฒนธรรมการอยู่อาศัย ของกลุ่มลูกค้า โดยมีเชนโรงแรมดังระดับโลกมาบริการ รวมทั้งการันตียอดผู้เช่า โดยโครงการ ที่ร่วม แคมเปญนี้ จะเป็นโครงการที่ณุศาฯเลือกแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้” นางศิริญา กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560