มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ติเบิล เกินลุ่มรัก มากหลงใหล...

05 ก.พ. 2560 | 14:00 น.
ใครที่ซื้อ ตัวถังเปิดประทุนหรือ “คอนเวอร์ติเบิล” (Convertible) ถือเป็นหนึ่งเวอร์ชันพิมพ์นิยมของ “มินิ” (Mini) แม้เมืองไทยอาจจะขายไม่มากครับ แต่ในยุโรปหรืออเมริกาได้การตอบรับที่ดีอยู่

MP37-3232-d ในยุคที่ “มินิ” เพิ่มทางเลือกตัวถังหลากหลายหรือมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้ง แฮตช์แบ็ก 3 ประตู,แฮตช์แบ็ก 5 ประตู,คูเป้(โฉมใหม่ยังไม่มา) คลับแมน(แวกอน) และคันทรีแมน (เอสยูวี) ยังไม่นับทางเลือกขุมพลังดีเซล,เบนซินที่แยกย่อยระดับความแรงเข้าไปอีก ซึ่ง“มินิ”ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำเข้ามาขายหมด(คันทรีแมน ประกอบในประเทศ)

MP37-3232-c มินิ คอนเวอร์ติเบิล เปิดตัวในเมืองไทยไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยทางเลือกเดียวคือ คูเปอร์ เอส (Cooper S) เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 192 แรงม้า ราคา 3.05 ล้านบาท ส่วนตัวถังยาว 3,837 มม. กว้าง 1,727 มม. สูง 1,415 มม. และระยะฐานล้อ 2,495 มม. (+28 มม.) โดยขนาดตัวขยับขยายขึ้นตามรุ่นแฮตช์แบ็ก 3 ประตู

ขณะที่หลังคาผ้าใบหรือซอร์ฟท็อป ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าสามารถกางออก-พับเก็บได้ในเวลา 20 วินาที และสั่งการได้ในแม้ในเวลาที่รถวิ่งแต่ความเร็วต้องไม่เกิน 30 กม./ชม.

MP37-3232-A ผมลองมาแล้วครับ วิ่งเอื่อยๆกำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้าน (ต้องแน่ใจว่าข้างหน้ารถไม่ติด) กดปุ่มเปิดหลังคาทำได้รวดเร็ว และเปลี่ยนบรรยากาศการขับขี่ไปโดยสิ้นเชิง

สำหรับหลังคาผ้าใบทำจากวัสดุพิเศษ ทนแดดทนน้ำและทำความสะอาดง่าย แถมข้อดีคือน้ำหนักเบา ส่วนการพับเก็บก็ทำได้เนี้ยบแน่นทุกรอยต่อ แต่จะเสียตรงทำให้รถมีจุดบอด

MP37-3232-f จุดบอดแรกเมื่อขับแบบปิดหลังคา ตัวผ้าใบจะหนาทึบในช่วงเสาซี-พิลลาร์(เทียบกับรถแฮตช์แบ็กทั่วไป) กรณีเข้าทางร่วมทางแยก คนขับต้องโยกตัวเพิ่มมุมมองด้านหลังซ้ายให้มากขึ้น จุดบอดที่ 2 เมื่อพับหลังคาลงมาหวังท้าฟ้าสู้ลม ตัวหลังคาผ้าใบที่พับลงมาด้านหลังนั้นไม่สามารถพับให้เรียบหรือเก็บมิดชิดหลังเบาะนั่งแถว 2 แต่ยังคงพับตั้งเป็นชั้นๆ ส่งผลให้มุมมองผ่านกระจกมองหลังหดหายไปด้วย

mp-373232g เหนืออื่นใด หากใครเห็นว่าเป็นรถแบบเปิดประทุน แล้วอยากชวนเพื่อนๆ 2-3 คนให้นั่งไปเที่ยวด้วยกันคงต้องถามเพื่อนให้ดีว่า อยากนั่งด้านหลังหรือไม่ เพราะเบาะของผู้โดยสารด้านหลังนั้น ออกแบบพนักพิงตั้งชัน ระยะห่างช่วงขา(Leg room) จำกัด เรียกว่าแคบและนั่งไม่สบาย

ด้วยความเป็นมินิขับสนุกมี DNA แฝงอยู่ในรถยนต์ทุกรุ่นครบทุกตัวถัง ดังนั้นเมื่อคุณได้นั่งหลังพวงมาลัย ก็อาจจะอยากรีดเร่งเค้นพลัง ลองสัมผัสอาการในโค้ง ซึ่งม้าในคอก 192 ตัวพร้อมทำงานเต็มที่ครับ เช่นดียวกับการควบคุมเฉียบคม ช่วงล่างหนึบแน่นและกระด้างน้อยกว่ารุ่นเก่าพอสมควร การลองขับในระยะทาง 200 กม.ยังไม่เครียดหรือปวดตัวมากนัก

ในรุ่นคูเปอร์ เอส วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 7.1 วินาที สามารถมุดซ้ายป่ายขวา เร่งแซงกะทันหันได้คล่องตัว ยิ่งเปลี่ยนโหมดเป็น “สปอร์ต” (หน้อจอจะเปลี่ยนเป็นรูปรถแล้วคิดว่าตัวเองเป็นจรวด) ปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ก็เร้าใจมากขึ้น
มินิยุคใหม่พยายามรักษา บุคลิกของการเป็นรถขับสนุก (โกคาร์ท ฟิลลิง) แต่ยกระดับการขับขี่ให้ไฮโซมากขึ้น เช่นเดียวกับการตกแต่งและอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารดูหรูหราน่าสัมผัส เช่น “เฮดอัพ ดิสเพลย์” (Head-Up Display) แบบบีเอ็มดับเบิลยูที่มีแผ่นพลาสติกเล็กๆ โผล่ขึ้นมาหลังพวงมาลัย (ก่อนถึงกระจกบังลมหน้า) คอยแสดงความเร็ว และการแจ้งเตือนระบบนำทาง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน รวมถึงปุ่มควบคุมการสั่งงานต่างๆคล้าย “ไอไดร์ฟ”ย่อส่วนวางใกล้ๆ คันเกียร์ ทว่าผู้ขับยังสามารถสั่งงานผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้วตรงคอนโซลกลางได้ ตลอดจนลูกเล่นอย่างไฟวงแหวนรอบจอแสดงผลแบบ LED ที่เปลี่ยนสีได้ (ตามโหมดการขับขี่และการกระแทกคันเร่ง)
…สำหรับมินิโฉมปัจจุบัน เฉลี่ยทุกตัวถังราคาไม่ได้โดดขึ้นไปจากเดิม (หลายรุ่นถูกลงด้วย) แต่ที่เพิ่มเติมคือออปชันทันสมัย(ความสะดวก-ปลอดภัย) การตกแต่งดูหรูหรา และความนุ่มนวลในการขับขี่

MP37-3232-b รวบรัดตัดความ...มินิเป็นรถยนต์ที่สะท้อนบุคลิกและรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้ชัดเจนที่สุด ใครขับแฮตช์แบ็ก 3 ประตู,แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ว่าโดดเด่นแตกต่างแล้ว เจอรุ่นคอนเวอร์ติเบิลเข้าไปยิ่งลุ่มลึก หรือคนซื้อต้องมีมากกว่ากว่าความหลงใหล และแน่นอนว่าควรมีโอกาสได้ใช้รถคันนี้สัมผัสอากาศดีๆ ทะเล ภูเขา ช่วงเช้า ค่ำ ซึ่งเป็นอีกอารมณ์ในการขับรถยนต์ที่น้อยคนจะเข้าถึงได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560