SFหาพาร์ตเนอร์เนรมิต‘เมกาซิตี้’ ระดม6.7หมื่นล้านสร้างเมืองใหม่

03 ก.พ. 2560 | 09:00 น.
"เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์" เดินหน้าหาพันธมิตรร่วมเนรมิตเฟส 2 – 3 ปั้นเมกาบางนา เป็น "เมกาซิตี้" หวังระดมทุนกว่า 6.7 หมื่นล้าน แจ้งเกิดเมืองใหม่ครอบคลุมทั้งที่อยู่อาศัย ออฟฟิศบิวดิ้ง โรงแรม และช็อปปิ้ง

หลังกว้านซื้อที่ดินบริเวณถนนบางนา-ตราดสะสมจนมีพื้นที่กว่า 400 ไร่ หวังสร้างเป็นเมืองขนาดใหญ่เพื่อรองรับกำลังซื้อผู้บริโภครอบนอกมานานหลายปี ล่าสุด "เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์" กลุ่มทุนใหญ่ผู้บุกเบิกศูนย์การค้าแนวราบใหญ่สุดในอาเซียนอย่าง "เมกาบางนา" เดินหน้าประกาศหาพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมลงทุน โดยนายคริสเตียน โอลอฟสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และเมกาซิตี้ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนต่อยอดการลงทุนในการพัฒนาโครงการ "เมกาซิตี้" ในรูปแบบมิกซ์ยูส โดยรวมที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม และแหล่งช็อปปิ้งครบวงจรเข้าด้วยกัน

โดยจะเป็นส่วนต่อขยายจากศูนย์การค้าในเฟส 2 และเฟส 3 จึงเปิดโอกาสให้ผู้สนใจที่ต้องการเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาพื้นที่โปรเจ็กต์ต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นรวมถึงรูปแบบอื่นๆที่น่าสนใจ ซึ่งจะเป็นการลงทุนในระยะยาว เบื้องต้นประเมินว่าจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท

ขณะที่บริษัทจะใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ในการขยายพื้นที่ศูนย์การค้า พร้อมเพิ่มร้านอาหารชื่อดังเข้ามาเปิดบริการอีกประมาณ 40 ร้านค้า อาทิ Dean & Deluca, Godfather, Bon Chon และ Starbucks รูปแบบใหม่ ฯลฯ รวมถึงแม็กเนตใหม่อย่าง "ท็อปส์ฟู๊ดแอนด์ ไวน์ ซูเปอร์มาร์เก็ต" ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ พร้อมอาคารจอดรถที่สามารถรองรับได้กว่า 1,200 คัน โดยคาดว่าจะพร้อมเสร็จและให้บริการในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นราว 10% ต่อเดือน จากปัจจุบันที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 3.5 ล้านคนต่อเดือน

"ส่วนต่อขยายในเฟส 2 จะเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์รวมความบันเทิง สันทนาการ กีฬา และการศึกษา อยู่ในระยะของการวางแผนและศึกษารายละเอียด คาดว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนในการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาบริหารโรงแรมในแห่งแรกของโครงการเมกาซิตี้ด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าย่านบางนา-ตราด เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ มีการขยายตัวและเติบโตของพื้นที่เชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีปัจจัยบวกจากโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้ารางคู่บางนา-สุวรรณภูมิ เป็นต้น"

บริษัทเชื่อมั่นในศักยภาพว่า เมกาซิตี้จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ที่สมบูรณ์แบบสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายครบครัน

จากโครงการที่อยู่อาศัยที่รองรับคนได้มากกว่า 5 หมื่นคน อาคารสำนักงานกว่า 3 หมื่นคน โรงแรม 2 แห่ง ที่พักอาศัย และแหล่งช็อปปิ้งที่รวมร้านค้าชั้นนำของแบรนด์ดังทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งร้านอาหาร แฟชั่น ความงาม สถาบันการเงิน เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560