‘เบนซ์’ ไม่มีแผนทำปิกอัพ รับตลาดซบ ลุย ‘อีคลาสCKD’ ม.ค.ปีหน้า

27 ธ.ค. 2559 | 10:00 น.
เจ้าพ่อรถยนต์หรู “เมอร์เซเดส-เบนซ์” กำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรื่องเฟื่องฟูด้านยอดขาย หลังจัดการกับเกรย์มาร์เก็ตเบ็ดเสร็จเด็ดขาด พร้อมเสริมทัพรถยนต์รุ่นใหม่ให้หลากหลายและรวดเร็ว ล่าสุดยังฉลองยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยไทยครบ 1 แสนคัน พร้อมประกาศต่อสัญญาว่าจ้าง “ธนบุรีประกอบรถยนต์” ให้ผลิตรถต่อไปอีก 12 ปี และเตรียมขยายไปยังโรงงานใหม่ที่ปัจจุบันประกอบปิกอัพแบรนด์ “ทาทา” แต่สัญญากำลังจะหมดลง ส่งผลให้“เมอร์เซเดส-เบนซ์” สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้จากสองโรงงานเพื่อรองรับยอดขายที่จะเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ค่ายรถยนต์อินเดีย “ทาทา” ได้เซ็นสัญญา 10 ปี กับโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อทำปิกอัพมาตั้งแต่ปี 2550 และเคยตั้งเป้าหมายกำลังผลิตไว้ 3.5 หมื่นคันต่อปี แต่ปัจจุบันใช้งานจริงแค่ 5,000 คันต่อปี โดยสัญญาจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปีหน้า ทำให้ “ทาทา” ต้องหาโรงงานผลิตใหม่ ดังนั้นพื้นที่โรงงานประมาณ 30 ไร่ตรงนี้จะถูกพัฒนาให้รองรับการผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ต่อทันที

“เราต้องการใช้พื้นที่ของโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันแผนการขยายโรงงานจะช่วยเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าตลาดรถยนต์ระดับหรูจะเติบโตมากกว่าปีนี้” นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวและว่า

จากที่บริษัทเคยประเมินว่าตลาดรถยนต์หรูปีนี้จะไปถึง 2.2 หมื่นคัน จนกระทั่งสถานการณ์มาถึงไตรมาสที่ 4 ซึ่งปกติจะเป็นฤดูกาลขาย ทว่าปีนี้ไม่เป็นไปตามคาด หรือ 2 หมื่นคันยังเหนื่อย ในส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังไม่ได้สรุปตัวเลข แต่ยืนยันว่าเมื่อจบปีนี้ต้องเป็นผู้นำอันดับหนึ่งหรือครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดอย่างแน่นอน

“ปีนี้บริษัทกำลังเดินหน้าสู่การผลิตรถยนต์สูงสุด 9,000 คัน/ปี จากรถยนต์รุ่นหลัก 8 รุ่น ซึ่งครึ่งหนึ่งของยอดผลิตนี้เป็นรถยนต์แบบปลั๊ก-อิน ไฮบริดที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง”นายเกรเว่ กล่าว

[caption id="attachment_121369" align="aligncenter" width="365"] ไมเคิล เกรเว่ ไมเคิล เกรเว่[/caption]

โดยในงานฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 1 แสนคันในประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ แอบนำ “อี-คลาส” W213 รุ่น E220 d ประกอบในประเทศมาอวดโฉม เพื่อแสดงว่ามีการเริ่มต้นผลิตรถยนต์รุ่นนี้แล้ว อนึ่ง ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2016 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เคยเปิดตัวรุ่นนำเข้าทั้งคันของ E220 d เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 1950 ซีซี 194 แรงม้า แบ่งเป็นสองรุ่นย่อยคือ Exclusive และ AMG Dynamic ราคา 3.99 ล้านบาทและ 4.79 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเป็นการนำเข้า(CBU)มาทำตลาดจำนวนไม่มาก ขณะที่รุ่นประกอบในประเทศคาดว่าราคาขายจะย่อมเยาลงมาเป็นหลักแสนบาท โดยจะเริ่มลงโชว์รูมในเดือนมกราคมปีหน้า
นั่นเป็นความเคลื่อนไหวของรุ่นตัวถังซีดาน(ซาลูน) ที่พร้อมประเดิมทำตลาดก่อนกับเครื่องยนต์ดีเซล แต่เชื่อว่าภายในปีหน้า 2560 จะมีทางเลือกกับรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด เสริมทัพตามออกมา เช่นเดียวกับพิมพ์นิยมของ ซี-คลาส และ เอส-คลาส อย่างแน่นอน

เหนืออื่นใด ยังมีการสอบถามถึงความเป็นไปได้สำหรับปิกอัพของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ความร่วมมือระหว่าง เดมเลอร์ เอจี บริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ เรโนลต์-นิสสัน โดยใช้พื้นฐานปิกอัพ “นาวารา” มาพัฒนาและทำตลาดในชื่อ “เอ็กซ์-คลาส” (X-Class) ว่ามีโอกาสจะทำตลาดในเมืองไทยหรือไม่?

ต่อข้อสงสัยนี้ “ไมเคิล เกรเว่” แม่ทัพของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ตอบเสียงดังฟังชัดว่า ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับปิกอัพระดับหรูในประเทศไทย ณ ตอนนี้ สำหรับ “เอ็กซ์-คลาส” จะถูกผลิตที่โรงงานนิสสัน เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เพื่อขายในตลาดยุโรปช่วงปลายปีหน้า และมีแผนส่งออกไปยังออสเตรเลียและแอฟริกาใต้ ขณะที่ตลาดอเมริกาใต้จะเป็นหน้าที่ของโรงงานเรโนลต์ เมืองคอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา พร้อมทำตลาดต้นปี 2561

“เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็กซ์-คลาส” และ “นิสสัน นาวารา” ถือเป็นโปรเจ็กต์ความร่วมมือทางกลยุทธ์ระดับโลก ซึ่งเบื้องต้นเมืองไทยยังไม่อยู่ในแผนงานดังกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,221 วันที่ 25-28 ธันวาคม 2559