สภาพคล่องเดือน ก.ย.59 ตึงตัวขึ้น...จากการปล่อยสินเชื่อ M&A ธุรกิจรายใหญ่

25 ต.ค. 2559 | 07:29 น.
สภาพคล่องเดือน ก.ย.59 ตึงตัวขึ้น...จากการปล่อยสินเชื่อ M&A ธุรกิจรายใหญ่ ขณะที่ เงินฝากปรับลดลง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2559 จากเอกสารรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน (ธ.พ.1.1) พร้อมประเมินแนวโน้มในระยะถัดไปไว้ ดังนี้

สินเชื่อเดือนกันยายน ดีดตัวขึ้นแรงกว่า 7 หมื่นล้านบาท สวนทางเงินฝากที่หดตัวกว่า 6 หมื่นล้านบาท

เงินให้สินเชื่อสุทธิ เพิ่มขึ้น 7.5 หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อน สู่ระดับ 10.5 ล้านล้านบาท ด้วยดีลสินเชื่อ M&A รายใหญ่กว่า 4 หมื่นล้านบาทของ ธพ. รายใหญ่แห่งหนึ่ง ประกอบกับสินเชื่อภาคธุรกิจยังขยายตัวได้ดี ยกเว้นสินเชื่อภาครัฐที่ยังมีฐานะเป็นชำระคืนสุทธิต่อเนื่อง ส่วนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโตได้ดีในทุกกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดี สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันของการชำระคืนหนี้และแรงซื้อรถใหม่ที่ยังแผ่วตัว ทั้งนี้ สินเชื่อของ ธพ. เดือนกันยายนขยายตัว 2.52% YoY และ 0.29% YTD

เงินฝากปรับลดลง 6.2 หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 11.15 ล้านล้านบาท เติบโตชะลอลงมาที่ระดับ 1.15% YoY และ -0.38% YTD โดยเป็นผลจากการครบกำหนดของเงินฝากประจำของธพ.ขนาดใหญ่ และไม่มีการออกโปรโมชั่นเงินฝากที่จูงใจมารองรับ ขณะที่ เงินฝากในกลุ่ม ธพ. ขนาดกลางและเล็ก ขยับขึ้นไม่มากนัก แม้ได้รับอานิสงส์จากการชะลอการแข่งขันด้านราคาเงินฝาก

เครื่องชี้สภาพคล่องตึงตัวสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 2550...จากการหดตัวลงของเงินฝาก

สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์เดือนกันยายน 2559 ตึงตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 2550 (ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยเริ่มเก็บข้อมูลในส่วนนี้) โดยเป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อ ขณะที่ เงินฝากปรับลดลงค่อนข้างมาก โดยสะท้อนผ่านสัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 92.10% จากระดับ 90.83% ในเดือนก่อน

อย่างไรก็ดี เนื่องจากปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่องตามความหมายกว้าง  ของธนาคารพาณิชย์ไทยยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยมีจำนวนกว่า 3.0 ล้านล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการรองรับการดำเนินธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไปอย่างไม่เป็นประเด็นที่ต้องกังวล

สภาพคล่องในระบบน่าจะยังประคองตัวในช่วงที่เหลือของปี 2559 ขณะที่ ภาพรวมสินเชื่อทั้งปี อาจยังขยายตัวในกรอบไม่สูงนัก

แม้ว่าตัวเลขสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ของเดือนกันยายน 2559 จะปรับตัวขึ้นมาก แต่แนวโน้มบรรยากาศการใช้จ่ายในไตรมาสสุดท้ายของปีขณะนี้ คงยังไม่มีปัจจัยเพิ่มเติมที่ทำให้เร่งตัวขึ้นได้เหมือนกับในช่วงปลายปีก่อน ประกอบกับความกังวลเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ น่าจะยังคงทำให้ธนาคารพาณิชย์มุ่งดำเนินนโยบายเครดิตอย่างระมัดระวัง ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แรงกดดันของการต้องเร่งระดมเงินฝากเพื่อชดเชยเงินฝากส่วนที่ครบกำหนดในช่วงที่เหลือของปี จึงไม่น่าจะมีมากนัก

ทั้งนี้ คาดว่า ภาพของสินเชื่อและเงินฝากข้างต้น น่าจะช่วยประคองให้สภาพคล่องในช่วงที่เหลือของปี อยู่ในระดับที่ยังคงเพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ในระยะต่อไป โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า การตึงตัวขึ้นของสภาพคล่องในระยะนี้ ส่วนหนึ่งเกิดกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่เดิมมีสภาพคล่องสูงสุด ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า การตึงตัวขึ้นของสภาพคล่อง ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นด้วยผลของการบริหารต้นทุนเงินของธนาคารพาณิชย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหารผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ ทำให้สภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้นคงเป็นภาวะชั่วคราว และอยู่ในวิสัยที่จัดการได้ ประกอบกับ ธนาคารแห่งประเทศไทยคงติดตามทิศทางสภาพคล่องของระบบการเงินไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลให้ภาพรวมของสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเงินทุนไหลออก หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงท้ายปี