ชี้ร้านอาหารQ4ยากคาดเดา โออีชิให้สติก่อนจัดแคมเปญ

24 ต.ค. 2559 | 01:00 น.
“โออิชิ” ชื้ทิศทางธุรกิจร้านอาหารไตรมาส 4 ยากประเมิน หลังสภาพจิตใจประชาชนไม่คงที่ ยืนยันสต๊อกวัตถุดิบมีเพียงพอต่อความต้องการหากประชาชนทะลักเข้ากรุงช่วงหยุดยาว ขณะที่ “แบล็คแคนยอน” พร้อมรับมือหากความต้องการสูงเตรียมส่งวัตถุดิบภายใน 1-2 วัน ทันความต้องการ

[caption id="attachment_107722" align="aligncenter" width="335"] ไพศาล อ่าวสถาพร  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไพศาล อ่าวสถาพร
รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)[/caption]

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มและร้านอาหารในเครือโออิชิ อาทิ โออิชิ แกรนด์, ชาบูชิ, โออิชิราเมน ฯลฯ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วงวันหยุดยาวปกติร้านอาหารในเครือฯจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าช่วงปกติราว 10-15% โดยในช่วงวันหยุดยาววันที่ 22-24 ตุลาคมนี้ บริษัทยังมีการสต๊อกวัตถุดิบเพื่อรองรับความต้องการในแต่ละร้านในเครือของบริษัทเทียบเท่าช่วงวันหยุดยาวปกติคือเพิ่มขึ้นมาที่ 10-15% เท่านั้น เนื่องจากมองว่าแม้ในช่วงที่ผ่านมา ในห้างสรรสินค้าหลักหรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือคอมมิวนิตีมอลล์ที่อยู่ใกล้เคียงสนามหลวงนั้น แม้จะมีประชาชนจำนวนมากเข้าไปจับจ่ายในห้างสรรพสินค้า แต่เป็นการจับจ่ายในส่วนของเครื่องแต่งกายเท่านั้น ซึ่งในกลุ่มของธุรกิจร้านอาหารประชาชนยังไม่ได้มีการเข้ามารับประทานมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในอารมณ์ที่หดหู่และไม่มีกระจิตกระใจในการรับประทาน

“แม้ในช่วงวันหยุดยาวนี้ที่ประชาชนจะเดินทางเข้ามาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก แต่ในแง่ของยอดขายธุรกิจร้านอาหารมองว่ายากที่จะประเมิน เนื่องจากประชาชนไม่อยู่ในอารมณ์ของการจับจ่ายรับประทานมากเท่าไหร่นัก ขณะภายในจุดหลักของการพักรถ หรือจุดที่ทางภาครัฐเตรียมไว้ให้ประชาชนพักผ่อนรวมถึงสนามหลวงนั้น มีอาหารและเครื่องดื่มแจกฟรีจำนวนมากเกินพออยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นในการสต๊อกสินค้ามากเกินไป”

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจอาหารในช่วงไตรมาส 4 นี้ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากเป็นช่วงของการเฉลิมฉลอง จึงมองว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากจะประเมินเนื่องจากอารมณ์ของประชาชนยังไม่คงที่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงไตรมาสสี่ของธุรกิจอาหารคือการบริหารจัดการอารมณ์ของผู้บริโภค กล่าวคือในช่วงที่สภาวะทางอารมณ์ของทุกคนยังไม่คงที่ การจัดแคมเปญหรือโปรชั่นต้องดูความรู้สึกของประชาชนว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องยอมรับว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในรอบ 70 ปี ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสภาวะจิตใจของประชาชน

นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารสินค้า บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารแบล็คแคนยอน กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมการรองรับกับปริมาณประชาชนจากทั่วประเทศ ที่จะเดินทางเข้ามาถวายความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นจำนวนมากด้วยการเตรียมความพร้อมในด้านวัตถุดิบของอาหาร เพื่อรองรับกับปริมาณประชาชน ซึ่งซัพพลายเออร์สามารถส่งวัตถุดิบให้ได้อย่างรวดเร็วเพียง 1-2 วันจึงเชื่อว่าจะไม่เกิดภาวะสินค้าไม่เพียงพอ เพราะประเมินว่าจำนวนประชาชนจะเดินทางจำนวนมาก เช่นเดียวกับช่วงเทศกาลสำคัญอย่างเช่น สงกรานต์หรือปีใหม่

“เชื่อว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ต่อเนื่องไปอาจจะเป็นปี ซึ่งสาขาในทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นสนามบิน รถไฟหัวลำโพง หรือตามถนนสายต่างๆ ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว เพื่อรองรับกับจำนวนผู้ใช้บริการจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าต้องเตรียมสินค้าเพิ่มเท่าไร เพราะต้องประเมินสถานการณ์ทุกวัน ก่อนหน้านี้บริษัทได้ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้ประชาชนที่โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 13-14 ตุลาคม และปัจจุบันได้บริการเครื่องดื่มให้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ในหน่วยแพทย์อาสาที่บริเวณสนามหลวงด้วย”

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,203 วันที่ 23 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559